ชายชาญ ไชยมั่น – เกรียงไกร ปัญโญกาศ – เรื่อง/ภาพ

ช่วงเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่บ้านเมืองระดมสรรพกำลัง สกัดกั้นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดของกลุ่มขบวนการค้ายาข้ามชาติ ที่ใช้เมืองไทยเป็นเส้นทางผ่านไปยังตลาดต่างประเทศ จะเห็นได้จากมีการจับกุมชนิดบิ๊กล็อตได้อยู่หลายครั้ง

งานนี้ต้องอาศัยความร่วมมือกันทั้งไทยและประเทศต้นทางผลิตยา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ส่งพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. เดินทางไปพูดคุยแสวงหาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านที่เกี่ยวข้องกับไทยโดยตรง เช่น เมียนมา ลาว ขณะที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้พยายามสกัดกั้นอย่างจริงจัง จนเห็นผลเป็นรูปธรรม

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมด้วย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5, พล.ต.ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาค 3, พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง, นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.เชียงราย ร่วมกันแถลงจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ พร้อมของกลางยาบ้า 9,400,000 เม็ด และยาไอซ์ 788 กิโลกรัม

เบื้องหลังการจับกุม มาจากในช่วงเช้ามืดวันดังกล่าว ทหารพรานที่ 3106 กองกำลังผาเมือง ร่วมกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเชียงราย (นรข.) ออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนใกล้กับประเทศเพื่อนบ้าน ริมฝั่งแม่น้ำโขง กระทั่งมาถึงบริเวณบ้านไทยเจริญ หมู่ 8 ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

ชุดลาดตระเวนสังเกตเห็นรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 ฒอ 363 กทม. จอดอยู่ริมแม่น้ำโขง ลักษณะเหมือนมีกลุ่มคนกำลังขนย้ายสิ่งของขึ้นท้ายรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่องไฟและส่งสัญญาณเสียงเพื่อขอตรวจค้น แต่กลุ่มคนดังกล่าวได้กระโดดหลบหนีคนละทิศคนละทางแล้วหายไปในความมืด

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในรถพบว่ามีกระสอบบรรจุยาเสพติดอยู่ท้ายกระบะจำนวน 84 กระสอบ แกะออกดูพบเป็นยาบ้าและยาไอซ์จำนวน ดังกล่าว

sdr

พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์เปิดเผยว่า การจับกุมยาเสพติด ล็อตนี้ถือว่าเป็นรายใหญ่ที่สุดของประเทศ น้ำหนักรวมเกือบ 2 ตัน มูลค่าภายในประเทศกว่า 1,500 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนทราบกลุ่มที่เป็นผู้นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน และสามารถควบคุมตัวมาสอบสวนไว้ 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน

ยาเสพติดล็อตนี้คาดว่าจะทยอยนำเข้าเขตชั้นในของประเทศ โดยจะใช้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ขนย้ายแฝงเข้าไปกับรถนักท่องเที่ยว

สำหรับยาไอซ์ที่มีกว่า 788 ก.ก.นั้น เมื่อเจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบคร่าวๆ แล้วพบว่า บางห่อเป็นยาเคตามีน ซึ่งจะนิยมขนส่งมาพร้อมๆ กัน โดยเจ้าหน้าที่ป.ป.ส.จะได้คัดแยกยาเสพติดและนำไปกักเก็บเพื่อนำไปทำลาย

วันเดียวกัน ที่อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถ.แจ้งวัฒนะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร., พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส., พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1, พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. และ นางชนิญญา ชัยสุวรรณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด

ยังได้ร่วมกันแถลงผลสรุปการจับกุมคดีค้ายาเสพติด ในช่วงวันที่ 25 มี.ค.-1 เม.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 11 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 11 คน ตรวจยึดยาบ้า 1,783,263 เม็ด, ไอซ์ 703 กิโลกรัม, กัญชา 1,380 กิโลกรัม, โคเคน 671 กรัม, โคคาอีน 800 กรัม, ยาอี 90 เม็ด และคีตามีน 0.6 กรัม รวมมูลค่ายาเสพติด 890,180,900 บาท ตรวจยึดทรัพย์สินเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน รถยนต์ 9 คัน อาวุธปืนพร้อมกระสุน 4 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง และเงินสด 87,220 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 4,943,220 บาท

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า อยากให้พี่น้องประชาชนสร้างการรับรู้ เพราะแหล่งพักยาอยู่ใกล้ตัวท่าน บางครั้งถ้าเห็นอะไรผิดสังเกต หรือไม่ชอบมาพากล ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทันที โดยเฉพาะตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปพิสูจน์ทราบ เรื่องยาเสพติดไม่ได้ไกลตัว ใกล้ตัวทั้งนั้น

ด้านพล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่า ปัจจุบันเมื่อจับยาเสพติดมากความขาดแคลนก็จะมีมาก แต่กำลังการผลิตไม่ได้หยุด มีการเชื่อมโยงระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ตลอดเวลา เพราะเป็นกลุ่มผู้ค้าเดียวกัน ทุกวันนี้เริ่มออกมาจากลำน้ำโขง เนื่องจากทางกองทัพภาคที่ 3 ได้สกัดกั้นอย่างเด็ดขาด ทำให้การขนส่งยาเสพติดเป็นไปได้ยาก

เหตุที่ยาเสพติดยังมีอยู่มาก เพราะประเทศไทยมีความเจริญขึ้น มีถนนที่สะดวก มีสนามบิน และการขนส่งทางน้ำ ทำให้ผู้ค้าเหล่านี้พยายามใช้ทุกเส้นทางที่ลำเลียงและซุกซ่อนยาเสพติดเข้ามาได้ แม้กระทั่งใช้สัตว์เลี้ยง บุคคล และยานพาหนะในการลำเลียงยาเข้ามา เช่น การผ่าตัวไก่แล้วนำยาเสพติดยัดใส่ก่อนเย็บปิด ใส่ยาเสพติดในก้นของวัวควายที่ข้ามฟากมา เป็นต้น

“ประเทศเพื่อนบ้านของไทยทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมา มาเลเซีย ได้ผนึกกำลังกัน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เราถึงมีวันนี้ ผมยืนยันว่า นโยบายการปราบปรามยาเสพติดจะไม่เปลี่ยน แต่จะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพราะต้องใช้เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น” แม่ทัพปราบยาเสพติดกล่าว

แม้จะไม่หมดในเร็ววันนี้ แต่หากร่วมมือกันเชื่อว่าน่าจะช่วยให้ลดลงได้แน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน