สดจากสนามข่าว

“ไว้ใจทาง วางใจคน จนใจเอง” หรือ “อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง” หมายถึงการไว้ใจคนอื่นมากจนเกินไป อาจจะทำให้ได้รับความเดือดร้อนได้ หรือไม่ควรไว้ใจใครมากเกินไป เพราะอาจทำให้เราเดือดร้อนได้

สุภาษิตสำนวนนี้ยังคงความเป็นสัจธรรมความจริงไว้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง

เมื่อเกิดคดีสลดสังคมครั้งนี้เกิดขึ้นในกลางดึกคืนวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา มีหญิงสาววัย 18 ปี พาร่างอันบอบช้ำเดินขึ้นโรงพัก

ร้องทุกข์ต่อร.ต.อ.ชิตพงศ์ ช่างประดิษฐ์ รองสว.สอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี ว่าถูกแก๊งทรชนหื่นลวงไปรุมโทรมจนบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ

สาวผู้เสียหายให้การว่า ช่วงค่ำวันเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุนายศราวุธ หรือก็อต วิธีเจริญ อายุ 22 ปี ชาว ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งรู้จักกันดีขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปรับที่บ้านพัก

บอกว่าจะพาขี่รถไปชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนบนสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ หรือสะพานนนทบุรี 1 ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมต่อถนนนนทบุรี 1 และถนนตัดใหม่ไปถนนราชพฤกษ์ ในพื้นที่เขต อ.เมืองนนทบุรี

ด้วยความที่เหยื่อสาวเห็นว่าเป็นคนที่รู้จักหน้าค่าตากันเป็นอย่างดี จึงซ้อนท้ายรถไปด้วยความไว้วางใจ

แต่แทนที่จะพาไปชมวิวตามที่กล่าวอ้าง ไอ้ก็อตกลับขี่มอเตอร์ไซค์พาเลี้ยวเข้าซอยเลี่ยงเมืองนนทบุรี 15 แยก 8 ไปที่เพิงพักท้ายซอย ซึ่งมีกลุ่มผู้ชาย 5 คน นั่งดื่มกินสุราอยู่

เหยื่อสาวก็เริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงร้องขอให้ไอ้ก็อตพาออกจากบริเวณนั้น

แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะกลุ่มชายในวงเหล้ากรูกันเข้ามาจับตัวเธอ ลากเข้าไปรุมขืนใจในเพิงที่เกิดเหตุ โดย ไอ้ก็อตเป็นคนคอยดูต้นทางไว้

กระทั่งผลัดกันข่มขืนจนครบทุกคน ไอ้ก็อตก็พาเหยื่อสาวกลับไปส่งที่บ้านพักพร้อมกำชับไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร

แต่เหยื่อสาวทนรับความบอบช้ำทางจิตใจไม่ไหว จึงนำเรื่องไปปรึกษาผู้ปกครองจนพากันเข้าแจ้งความ ขอความยุติธรรมจากตำรวจช่วยลากคอแก๊งทรชนมาดำเนินคดี

ตํารวจใช้เวลาสืบสวนความจริงและหาเบาะแสเพิ่มเติม พร้อมพาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จนได้หลักฐานชัดเจน จึงกระจายกำลังออกตามจับกุมผู้ต้องหาชุดแรกจำนวน 3 คนประกอบด้วย

นายศราวุธ หรือไอ้ก็อต นายไกรฤกษ์ แก้วคำแพง อายุ 19 ปีและนายอนันต์ หรือกวาง บัวเกา อายุ 19 ปี ที่บ้านพักของทั้ง 3 คน เมื่อวันที่ 9 เม.ย. โดยทั้งหมดเป็นชาวต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ แต่ก็ต้องจนมุมเมื่อเหยื่อสาวชี้ตัวยืนยันว่าทั้ง 3 คนร่วมกันขืนใจตนเองตามที่ให้การเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตน อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง” ตามมาตรา 276 ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000บาท

ภายหลังสอบสวนตำรวจคุมตัวทั้ง 3 รายไปทำแผนประทุษกรรม ประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ ก่อนส่งตัวไปขออนุญาตฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรี

ต่อมานายบวร ปั้นแดง อายุ 47 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ทราบเรื่องรีบติดต่อขอมอบตัวต่อตำรวจ พร้อมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

เหลือนายณัฐพงศ์ กัณฑวงค์ อายุ 22 ปี และนายตะวัน พันธ์กระโทก อายุ 20 ปี ที่ยังหลบหนีไปได้ จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนนทบุรี และเร่งตามจับตัวมาดำเนินคดี

เพื่อชดใช้โทษทัณฑ์และบาปกรรมที่กระทำลงไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน