สดจากสนามข่าว

เจริญ อาจประดิษฐ์-พิมพร อยู่รุ่ง / เรื่อง-ภาพ

 

“ถึงผมจะเคยเป็นทหาร เคยฆ่าคนมาก่อน แต่ผมไม่เคยคิดฆ่าผู้หญิง เรื่องที่เกิดขึ้นผมเสียใจมาก ผมเลยไม่คิดจะหนีต่อ กระทั่งตำรวจบุกมาจับกุม” ส่วนหนึ่งของถ้อยคำสารภาพพรั่งพรูออกจากปากของ นายแว หรือ เวย์ อายุ 40 ปี คนงานสวนยางพารา ชาวเมียนมา ที่บ้านหินกอง ม.2 ต.บางสะพาน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ให้การหลังถูก ตร.บางสะพานจับกุม

ที่มาที่ไปของเรื่องราวดังกล่าว เริ่มขึ้นเมื่อเที่ยงวันที่ 27 ต.ค. ร.ต.อ.วรพงษ์ ชาวแพะ รอง สว. (สอบสวน) สภ. บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งพบคนถูกฆ่าที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใน ต.แม่รำพึง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัชพล สมแก้ว ผกก.สภ.บางสะพาน พ.ต.ท.พงษ์สันต์ ชัยพันธ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.กฤษณรักษ์ วงษ์งาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ประหยัด อินทนาศักดิ์ สว.สส. กำลังชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน

ที่เกิดเหตุเป็นห้องพักเลขที่ 16 บนชั้นสอง เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส. เดือน (นามสมมติ) อายุ 22 ปี สภาพศพนอนหงายอยู่บนเตียง ร่างกายเปลือยเปล่าไม่สวมเสื้อผ้า มีเลือดไหลออกมาทางจมูกและมีร่องรอยเขียวช้ำที่ลำคอ คาดเสียชีวิตแล้วราว 8-9 ช.ม.

ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่ร้านตะวันแดง คาราโอเกะ โดยมีพยานเห็นชายวัยกลางคนมานั่งดื่มเบียร์ที่ร้าน กระทั่งเวลาราว 22.00 น. ผู้ตาย และชายคนดังกล่าวเดินออกมาจากร้าน หายเข้าไปในโรงแรมที่เกิดเหตุด้วยกัน

กระทั่งเวลาตีหนึ่ง ลูกค้าที่อยู่ห้องข้างเคียงได้ยินเสียงคนทะเลาะกันในห้อง กระทั่งเวลา 12.00 น. ของวันที่ 27 ต.ค. แม่บ้านมาเคาะประตูห้องเรียกเพื่อทำความสะอาดเนื่องจากหมดเวลาเช่าพักแล้วแต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับ จึงนำลูกกุญแจสำรองไขประตูเข้าไปจึงพบศพดังกล่าว

ชุดสืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพชายต้องสงสัยได้ ในช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง ลักษณะเหมือนทั้งสองคนมีปากเสียงกัน แล้วชายคนดังกล่าวกระชากผู้ตายเข้าไปในห้องพัก จากนั้นไม่นานได้เดินออกมาด้วยอาการตกใจ ก่อนที่จะรีบเดินไปที่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ ขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว

ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตั้งแต่ของโรงแรมที่เกิดเหตุและตามถนนสายต่างๆ ในเขต อ.บางสะพาน จนทราบใบหน้าและรูปร่างของผู้ต้องหา รวมทั้งรถ จยย.ที่ใช้ในการหลบหนี กระทั่งมาสิ้นสุดที่กล้องวงจรปิดตัวสุดท้าย ที่ร้านรับซื้อยางพารา ปากทางเข้าวัดหินกอง ม.2 ต.พงศ์ประศาสน์ จึงนำข้อมูลมากำหนดทิศทางและความน่าจะเป็นเกี่ยวกับที่อยู่ของคนร้าย

ขณะเดียวกันกำลังอีกชุดนำภาพออกสืบสวนหาข่าวในละแวกดังกล่าว จนได้ข้อมูลว่าชายในภาพชื่อนายแวเป็นชาวเมียนมา มารับจ้างกรีดยางพารา และพักอยู่ที่กระท่อม กลางสวนยางพาราดังกล่าว

กระทั่งตีห้า วันที่ 29 ต.ค. พ.ต.อ.ชัชพลนำกำลังกว่า 40 นาย เข้าปิดล้อมสวนยางพารา ก่อนพบนายแวกำลังเก็บน้ำยางพารา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่นายแวรีบปิดไฟฉายแล้ววิ่งหลบหนีไปในความมืด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เฝ้าปากทางเข้า-ออกและตรวจค้นภายในป่าสวนยาง ซึ่งชุดของ พ.ต.ท.ประหยัด อินทนาศักดิ์ สว.สืบสวน ที่เข้าตรวจสอบในสวนยาง ก่อนสามารถจับตัวนายแวเอาไว้ได้

จากนั้นจึงพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดรถ จยย.และเสื้อผ้ารองเท้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ ที่เพิงพักขนาดเล็ก ทั้งตรวจพบร่องรอยบาดแผลถูกปลายเล็บข่วนตามร่างกายหลายแห่ง จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพงส.ดำเนินการจัดเก็บดีเอ็นเอ ตรวจเปรียบเทียบกับของกลาง และตรวจเปรียบเทียบกับถุงยางอนามัย และเนื้อเยื่อที่เล็บมือของผู้ตาย พร้อมส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายที่ร.พ.บางสะพาน เพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดี

นายแวสารภาพผ่านล่ามว่า วันเกิดเหตุไปนั่งดื่มเบียร์ที่ร้านดังกล่าว ก่อนจะพบผู้ตายซึ่งเป็นหญิงสาวสวย ตนจึงเจรจาขอพาไปหลับนอนด้วย ที่ราคา 1,800 บาท ทั้งคืนจากนั้นจึงได้พากันมาที่โรงแรมที่เกิดเหตุ ก่อนมีอะไรกับผู้ตายไปแล้ว 1 ครั้ง จากนั้นขอมีอะไรกับผู้ตายด้วยอีกเป็นครั้งที่สอง ระหว่างนั้นมีโทรศัพท์เข้ามา จับใจความได้ว่ามีคนโทร.เรียกจะให้กลับบ้าน ทำให้ผู้ตายเปลี่ยนใจไม่นอนด้วยถึงเช้าและจะกลับ ตนจึงโมโหเกิดมีปากเสียงกัน

“ผมตามไปลากตัวกลับเข้ามาในห้อง แล้วชกไปที่ใบหน้า 1 ครั้ง แล้วผลักผู้ตายไปกระแทกกับข้างฝาห้อง จากนั้นก็ข่มขืนไปอีก 1 ครั้ง ระหว่างข่มขืนผู้ตายร้องให้คนช่วย จึงบีบคอไปหลายทีกระทั่งแน่นิ่งไป หลังเสร็จกิจจึงรู้ว่าเสียชีวิตแล้ว ด้วยความตกใจผมหนีออกมาและขี่รถจยย.กลับที่บ้านพักที่สวนยางพารา แต่ไม่อยากหนีต่อเพราะรู้สึกเสียใจที่ฆ่าผู้หญิง แม้ผมจะเคยเป็นอดีตทหารที่ประเทศบ้านเกิด เคยฆ่าคนมาก่อน แต่ไม่เคยคิดจะฆ่าผู้หญิง ผมเสียใจและไม่คิดหนีต่อ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกมาจับกุม” นายแวสารภาพ

เจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด จึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเสพยาเสพติด (ยาบ้า)” ตร.คุมตัวนายแวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าทอ สาปแช่งผู้ต้องหาอยู่ตลอดเวลา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน