วิเคราะห์การเมือง
อาการ “ดิ้น” อันมาจาก นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านการเลือกตั้ง ต่อ “ปฏิกิริยา” อันเนื่องแต่ข่าวการจะ “เซ็ตซีโร่” องค์กรอิสระ
สามารถ “เข้าใจ” ได้ ไม่ยาก
เพราะว่าจากการกำหนดเอาไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หรือที่เรียกว่า “กฎหมายลูก” อาจส่งผลให้ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ต้องหลุดพ้นจากสถานะแห่งกกต.
จึงมีความเห็นต่อ “คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ” เป็นพิเศษ
ไม่ว่า “หัวหงอก” ไม่ว่า “หัวดำ” ไม่ว่านักร่างกฎหมาย “อาชีพ” ไม่ว่า “อาจารย์” สอนกฎหมายล้วนถูกเลเพ ลาดพาด ไปถึง
กลายเป็น “วิวาทะ” ระหว่าง “ศึกตระกูลชัย” อันร้อนแรง
ก็เหมือนที่ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เคยกล่าวเอาไว้ คนเราเมื่อมีการกดขี่ลิดรอนเสรีภาพหากเป็นต่อคนอื่นก็ยังไม่รู้สึก แต่หากประสบด้วยตนเองก็มักจะรู้สึกและเข้าใจ
คำถามที่ตามมาก็คือ ทำไมต้องเป็น นายสมชัย ศรีสุทธิยากร
ความจริงเท่าที่สดับตรับฟังผลสะเทือนอันเนื่องแต่ “เซ็ตซีโร่” มิได้มีเป้าหมายเฉพาะแต่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เพียงผู้เดียว
คนอื่นๆ ในกกต. อย่าง นายประวิช รัตนเพียร ก็อาจโดน
คนอื่นๆ ในองค์กรอิสระอื่น อย่างเช่นในป.ป.ช.หรือแม้กระทั่งในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก็อาจโดนลูกหลงนี้ด้วย
แต่ดูเหมือนท่านเหล่านั้นจะสงบนิ่งอยู่ในที่ตั้ง
คนที่ออกมาร้องเอะอะ โวยวาย ตอบโต้ แสดงความคิดเห็นอย่างอึกทึกครึกโครมก็มีแต่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เพียงผู้เดียว คล้ายกับว่าในบรรดากรรมการ “องค์กรอิสระ” ทั้งหลายทั้งปวงดูเหมือนจะมีเพียง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เท่านั้นที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
กระนั้น ปฏิกิริยาในทางสังคมกลับ “สะใจ” มากกว่า “เห็นใจ”
ความสะใจในที่นี้มิได้หมายเฉพาะกรณีของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เพียงอย่างเดียว หากแต่หมายรวมไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ “กกต.” ทั้งหมด
นั่นก็เพราะ กกต.ชุดนี้มี “ผลงาน” อะร้าอร่ามอย่างยิ่งยวด
รูปธรรมอันแจ่มชัดและอึกทึกครึกโครมอย่างยิ่งก็คือ การแสดงความไม่เต็มใจและไม่เต็มที่ในการจัดการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557
เพราะเอนยิ่งกว่า “หอเอนเมืองปิซ่า” ไปทาง “กปปส.”
และบทบาทการเอนเอียงอย่างออกนอกหน้า กกต.คนอื่นๆ อาจสงบเสงี่ยม เอี้ยมเฟี้ยม แต่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เด่นชัด โจ่งแจ้ง ถึงการโพสต์ภาพและข้อความผ่านโซเชี่ยลมีเดีย
สภาพที่ถูกกระทำจึงเป็นส่วนหนึ่งแห่ง “กรรมออนไลน์”
เด่นชัดอย่างยิ่งว่า “กรรมออนไลน์” กำลังให้บทเรียนได้อย่างเป็นจริงตรงเป้ามากยิ่งกว่า “กรรมติดจรวด”
ไม่ว่ากรณีของ วิกรม นกเงือก ไม่ว่ากรณีของ แม่ผ่องพรรณ พัฒนา ไม่ว่ากรณีของ อโลฮา ฮาวาย ไม่ว่ากรณีของ น็อต กราบรถ และล่าสุดกรณี เบส อรพิมพ์
ล้วนยืนยันความศักดิ์สิทธิ์แห่ง “กรรมออนไลน์”
