แฟ้มคดี

ใกล้ถึงบทสรุปแล้ว สำหรับการดำเนินคดีกับพ.ต.ท.คนดัง ผู้กว้างขวางแห่งตลาดใหม่ดอนเมือง

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกตรวจค้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางผิดกฎหมาย

แต่กลับถูก พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ปรึกษาตลาด ออกมาโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่

ซัดทันทีว่ามีเจตนาจ้องเล่นงานเพราะความขัดแย้งส่วนตัว!!

ส่งผลให้เกิดการตรวจสอบย้อนหลังจนมีพยานยืนยันว่ามีแก๊งรีดไถกรรโชกทรัพย์ เรียกเก็บเงินค่าจอดรถจากพ่อค้าแม่ค้า

นำมาซึ่งการออกหมายจับพ.ต.ท.สันธนะกับพวกอีก 10 คน

พร้อมยกกำลังอรินทราชครึ่งร้อยจู่โจมจับกุมถึงคอนโดฯหรูกลางกรุง

แม้จะไม่ได้ตัว แต่ต่อมาพ.ต.ท.สันธนะ ก็ติดต่อขอมอบตัว

และหลังจากได้ประกันตัวก็ประกาศจะฟ้องร้องกลับ 3 นายพลตำรวจที่มีข้อบาดหมางกัน รวมทั้งแม่ค้าที่เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ

ขณะที่ตำรวจเองก็เตรียมพิจารณาร้องขอให้ถอนประกันเนื่องจากพบพฤติกรรมข่มขู่พยาน

พร้อมพิจารณาถอดยศ เนื่องจากทำให้วงการสีกากีมัวหมอง

ถือเป็นเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยสีสัน ที่ต้องติดตามดูกันต่อไป

นอนห้องขัง

ตร.บุกค้นตลาดใหม่ดอนเมือง

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันที่ 2 พ.ค. โดย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ท่องเที่ยว สนธิกำลังจากอย. และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกว่า 500 คน เข้าตรวจสอบร้านค้าภายในตลาดใหม่ดอนเมือง กว่า 26 ล็อก 200 ร้าน เพื่อตรวจสอบร้านค้าที่จำหน่ายอาหารเสริมว่ามีการจด อย. ถูกต้องหรือไม่

อย่างไรก็ตามการตรวจค้นครั้งนี้กลับมีข่าวรั่วออกมาก่อน ทำให้ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดทำการ โดยที่บางร้านยังเปิดแอร์ทิ้งไว้ และไม่ได้ล็อกประตู

เจ้าหน้าที่จึงแก้เกมด้วยการตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า เพื่อสืบสวนสอบสวน ให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดมาแสดงตัวกับตำรวจว่าสินค้าที่วางจำหน่ายนั้นถูกต้องตามที่ อย.กำหนดหรือไม่ โดยเปิดศูนย์ตลอด 24 ชั่วโมง ใช้พนักงานสอบสวนสน.ดอนเมืองกว่า 20 นายหมุนเวียนทำหน้าที่

พร้อมกันนั้นยังยื่นต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายค้นเข้าตรวจสอบภายในร้านอีกด้วย

ประกาศหากไม่ตรวจสอบทั้งหมดจะ ไม่ยกกำลังกลับโดยเด็ดขาด

หลังจากเจ้าหน้าที่ประกาศกร้าว วันรุ่งขึ้น พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผกก.ตำรวจสันติบาล 2 ซึ่งอ้างตัวเป็นที่ปรึกษากรรมการเจ้าของตลาด ก็รุดเข้าเจรจากับพล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.กองสวัสดิการ สำนักงานกำลังพล ที่ดูแลศปก. ดังกล่าว

พร้อมต่อว่าอย่างฉุนเฉียวขอให้นำกำลัง เจ้าหน้าที่ออกไปจากตลาดทันที เพราะถือเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล รวมทั้งขอเจรจากับพล.ต.อ. ที่นำกำลังเข้าตรวจค้น

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็ยังปักหลัก พร้อมรอหมายค้นจากศาล จนกระทั่งร้านค้าต่างๆต้องยินยอมให้ตรวจสอบ เพราะเกรงว่าหากตำรวจวางกำลังที่ตลาดทุกวัน จะเสียหายกว่าที่เป็นอยู่

หลังตรวจค้นใช้เวลา 5 วัน ก็สรุปผลการปฏิบัติงาน ตรวจค้นร้านค้า 259 ร้าน พบร้านผิดกฎหมาย 186 ร้าน ยึดสิ่งของได้ 2,868 รายการ 320,785 ชิ้น ยึดเครื่องจักรผลิตภัณฑ์ 7 เครื่อง

รวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท!??

สั่งรื้ออาคาร-ฮึ่มเลิกสัญญา

ไม่เพียงแค่นั้น ยังตรวจสอบถึงความ ถูกต้องของตลาดใหม่ดอนเมืองแห่งนี้ด้วย โดยพบว่าตลาดแห่งนี้มีความผิดเพิ่มอีก 5 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ความผิดฐานบุกรุก ที่สาธารณะคลองเปรมประชากร เป็นอาคารด้านหลังตลาดทั้งตึก ซึ่งสน.ดอนเมืองรับแจ้งความคดีที่ 764/2561

2.ความผิดฐานก่อสร้างต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณตัวอาคาร โดยต่อเติม 200 กรรม 200 วาระ สน.ดอนเมืองรับเลขคดีที่ 765/2561 3.ความผิดฐานก่อสร้างต่อเติมอาคาร บริเวณทางเดินอาคาร ความผิดในคดีที่ 766/2561 4.ดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีเลขที่ 767/2561

5.ดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีเลขที่ 768/2561 ทั้ง 5 ข้อหา แจ้งความผิดต่อบ.พัฒนาตลาดใหม่

นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ม.136 ตามประมวลกฎหมายอาญา คดีเลขที่ 769/2561 แจ้งแก่พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ที่ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่คือ พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบช.สก. ในวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนการขัดขวางการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน

จับถึงหน้าบ้าน

นายบัญชา สืบกระพัน หัวหน้าฝ่ายโยธาสำนักงานเขตดอนเมืองกล่าวว่า จาก 5 ข้อหาเบื้องต้นมีความผิดชัดเจน ทั้งด้านหลังตึกที่รุกคลอง การซอยห้องในตัวอาคารให้เชื่อมกัน การทำทางเดินระหว่างอาคาร การทำกันสาดหน้าตัวอาคาร ทั้งหมดนี้มีความผิดทั้งสิ้น ต้องระงับใช้ตัวอาคารที่ผิดกฎหมายทั้งหมด

โดยทางเขตดอนเมืองจะนำหมายมาติดห้ามเข้าออกตัวอาคารทั้งหมด ในตลาดที่ผิดกฎหมาย จนกว่าจะแก้ไขแบบแปลนแล้วยื่นใหม่ใน 30 วัน หากยื่นแล้วไม่ผ่านต้องรื้อถอนทั้งหมด

พร้อมออกหมายเรียก นายสุชาติ โชว์วิวัฒนา หรือเฮียเซ้ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด หลังตรวจสอบพบว่าตลาดเช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ พื้นที่ 18 ไร่ ราคา 68,000 บาท

ขณะที่นายปรีชา มงคลหัตถี ที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กรมธนารักษ์กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของราชพัสดุ ให้เอกชนทำสัญญาเช่า หากทางเขตพบว่ามีความผิด ในเรื่องตัวอาคารแล้วไม่แก้ไข กรมธนารักษ์มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญากับทางเอกชนได้

เป็นวิบากกรรมของตลาดใหม่ดอนเมือง

จับ”สันธนะ”กรรโชกทรัพย์

ขณะที่ตัวของพ.ต.ท.สันธนะ นอกจากถูกแจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานแล้ว เจ้าหน้าที่ยังพบว่า มีผู้มีอิทธิพลเก็บรายเดือนผู้ประกอบการแผงละ 1,500 บาท หรือแม้แต่ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ใกล้ตลาด ยังต้องเสียค่าจอดรถหน้าบ้านตัวเอง เดือนละ 700 บาท แต่ไม่กล้าทำอะไรเพราะเกรงกลัวผู้มีอิทธิพล

ต่อมาวันที่ 11 พ.ค. ศาลอาญาก็อนุมัติหมายจับพ.ต.ท.สันธนะ กับพวกอีก 10 คน จำนวน 45 หมายจับ ซึ่งเป็นความผิดข้อหากรรโชกทรัพย์ โดยมีการกระทำต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งเป็นความผิดฐานฟอกเงิน

จากนั้นพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ก็นำกำลังอรินทราชกว่า 50 นาย บุกจู่โจมที่คอนโดพหลโยธินเพลส ซอยพหลโยธิน 8 ซึ่งพบว่าเป็นที่พักอาศัยของพ.ต.ท.สันธนะ โดยไม่รอให้มามอบตัว

แต่การเข้าค้นกลับคว้าน้ำเหลว เมื่อไม่พบว่ามีใครอยู่ภายในห้อง

โดยพ.ต.ท.สันธนะไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของพ่อ เลขที่ 219 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ใกล้คริสตัล มาร์เก็ต แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. พร้อมประสานตำรวจสน.โชคชัย เพื่อขอมอบตัว รุ่งเช้าวันที่ 12 พ.ค. พ.ต.ท.สันธนะก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าบ้านโดยถอดเสื้อชูมือให้ตำรวจเข้าจับกุม แล้วส่งตัวไปดำเนินคดีที่สน.ดอนเมือง

สอบเครียดนาน 7 ชั่วโมงก่อนส่งฝากขังศาล ในวันที่ 13 พ.ค.

ขณะที่เจ้าตัวหลั่งน้ำตา ปฏิเสธข้อกล่าวหา ยืนยันแม้ไม่ใช่คนดี แต่ไม่ใช่คนเลวระยำ พร้อมสาบานด้วยชีวิตพ่อและแม่ของตัวเองว่าไม่ได้กระทำความผิด

ต่อมาศาลอาญาให้ประกันด้วยหลักทรัพย์ 3 แสนบาท พร้อมห้ามไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

หลังได้รับอิสรภาพ พ.ต.ท.สันธนะระบุว่า ทราบว่าผู้ค้า 8 รายเต็มใจชี้ตัวตนกับพวกว่าร่วมกันข่มขู่บังคับเรียกเก็บเงิน ทั้งที่ตลาดมีกว่า 500 ร้าน แต่นี่แค่ 8 ร้าน เชื่อว่ามีการชักจูง ตนได้ชื่อแล้วจะไปตรวจสอบว่าเป็นผู้ค้าจริงหรือไม่ อยู่ล็อกไหน ตนไปเดินผ่านเรียกเก็บเงินตอนไหน แล้วเรื่องนี้ต้องฟ้องกลับแน่นอน

คำประกาศกร้าวจาก”สันธนะ”

ลุยถอดยศ-จ่อฟอกเงิน

พ.ต.ท.สันธนะ ยังส่งตัวแทน ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ระบุว่าเรื่องนี้เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว โดย 3 นายพล คือพล.ต.อ.จักรทิพย์ พล.ต.อ.วิระชัย และพล.ต.ต. สุรเชษฐ์ ซึ่งกระทบต่อบุพการีและครอบครัว ไม่ยินยอมอีกต่อไป และจะใช้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการกับทั้ง 3 คนต่อไป

ส่วนพล.ต.อ.จักรทิพย์ ยืนยันดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนที่พ.ต.ท.สันธนะ ขู่ฟ้องคนที่แจ้งความจะเข้าข่ายข่มขู่หรือไม่นั้น เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวนที่ต้องพิจารณา พร้อมแจงเรื่องที่โทรศัพท์หาพ.ต.ท.สันธนะ ว่าใครโทร.มาก็คุยด้วยทั้งนั้น บางครั้งคน บ้าโทร.มายังต้องคุยกว่า 10 นาที

นอกจากนี้ยังตั้งพล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผบ.ตร. คุมคดี

1.สุวพันธุ์แถลง / 2.พ่อให้กำลังใจ / 3.บุกคอนโด / 4.สั่งรื้อตลาด

ขณะที่พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ ระบุว่า กำลังตั้งคณะทำงานมาพิจารณาพฤติกรรมของพ.ต.ท.สันธนะ ว่าทำให้องค์กรตำรวจเสียหายหรือไม่ หากใช้ยศตำรวจแสดงพฤติกรรมให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสีย ก็เป็นเหตุให้ถอดยศได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้คดีสิ้นสุด

นอกจากนี้ยังดูฐานความผิดเรื่องการกรรโชกทรัพย์ ก็เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ปปง. ซึ่งจะต้องตรวจสอบด้วยเช่นกัน

ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ก็ยืนยันขั้นตอนถอดยศ ไม่ใช่เรื่องยาก ที่ผ่านมามีถอดยศกันเกือบทุกวันอยู่แล้ว

เป็นคดีที่ต้องติดตามว่าจะมีบทสรุปอย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน