สังคมบนทางสองแพร่ง

ทิ้งหมัดเข้ามุม

จ่าบ้าน

เรื่องจะขยายใหญ่โตขึ้นไปอีกเท่าไหร่ไม่รู้ ทุกวันนี้สังคมไทยอยู่ระหว่างทางสองแพร่ง แพร่งหนึ่งรัฐบาลยังเป็นคณะที่มีอำนาจตามมาตรา 44 อยู่ในมือ อีกแพร่งหนึ่ง การชุมนุมทางการเมืองเริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้ว

ประจวบกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจขณะที่อยู่ระหว่างการปฏิรูป เป็นขณะที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมายเกือบจะ เรียกว่า “เต็มสูบ” ตั้งแต่ตำรวจจับโปลิศ ถึงตำรวจจับพระผู้ใหญ่ตามข้อหาที่มีการแจ้งความไว้ ทั้งเรื่องการเข้าร่วมชุมนุม และเรื่อง “เงินทอน”

การที่ตำรวจเดินหน้าเรื่องกฎหมายเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ประชาชนอุ่นใจได้ว่า ผู้ที่ทำผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดี ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใคร

เพราะกฎหมายมิได้ละเว้นไม่ให้กระทำหรือกระทำกับผู้นั้นผู้นี้

การปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ประการสำคัญคือต้องเคร่งครัด และตามระเบียบปฏิบัติ มิให้กลายเป็น “สองมาตรฐาน” ดังที่เคยได้รับการร้องเรียนมาเป็นประจำ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ด้วยว่า การกระทำผิดกฎหมายนั้น เป็นเพียงถูก กล่าวหา หรือมีพยานหลักฐานชัดเจน

เมื่อส่งคดีขึ้นถึงศาลจะได้ไม่มีข้อกังขาว่า “หลักฐานอ่อน”