สดจากสนามข่าว
ยุทธศักดิ์ สุขเจริญ ศุภมาศ จงสกุล เรื่อง/ภาพ
ชาวบ้านที่นั่งพักผ่อนกับครอบครัว บริเวณสันเขื่อนสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 13 โครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำภาชี อาคารทดน้ำบ้านชุกกระเพรา ม.9 ต.จรเข้เผือก อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ต่างตกใจวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น
เพราะเสียงปืนซึ่งดังสนั่นหวั่นไหวจนหูดับตับไหม้ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อเสียงปืนสงบลง พร้อมๆ กับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่าย แยกย้ายกันหลบหนี ทิ้งไว้เพียงร่างของนายพัชระ พ่วงกลาง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.7 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี คนสนิทอดีตส.ส.ชื่อดังของเมืองกาญจน์ ที่นอนหายใจรวยรินจมกองเลือดอยู่ และมีเด็กถูกลูกหลงบาดเจ็บอีก 3 คน และปลอกกระสุนปืนนานาชนิดตกอยู่เกลื่อน เกือบ 40 ปลอก
ปลอกกระสุนตกเกลื่อน
ห่างจากจุดเกิดเหตุ 50 เมตร เจ้าหน้าที่พบศพนายขันธ์ชัย ประดับสุข อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191/1 ม.2 ต.วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ถูกยิงเข้าหน้าอก 3 นัด นอนจมกองเลือดอยู่ริมฝั่งน้ำข้างรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ใกล้ตัว
พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.อำนาจ เอี่ยมใจดี ผกก.สภ.ด่านมะขามเตี้ย พ.ต.ท.เสวก อรุณรุมแสง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วัชรากร เนียมหอม รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ศรีชัย ยิ่งเจริญ สว.สส. พ.ต.ท.วิลาสินี วานิชชัง นวท.(สบ 2) พฐ.จว.กจ. และร.ต.อ.อลงกรณ์ อุ้ยฟัก ร้อยเวรเจ้าของคดี รีบลงพื้นที่ตรวจสอบหลังรับแจ้งเหตุ
เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บทั้งหมด ก่อนส่งรักษาที่ร.พ.ด่านมะขามเตี้ย แต่นายพัชระมีบาดแผลถูกยิงเข้าศีรษะอาการสาหัส จึงส่งรักษาต่อที่ร.พ.พหลพลพยุหเสนา แต่ก็สุดที่แพทย์จะยื้อจาก เงื้อมมือมัจจุราชไว้ได้ เสียชีวิตไปในที่สุด
สอบสวนชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้คนจำนวนมากหอบลูกจูงหลานมานั่งดื่มกินพักผ่อนที่สันเขื่อนดังกล่าว มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเปิดเพลงเสียงดังรบกวนคนอื่น
เมื่อมีคนเข้าไปขอให้ลดเสียงลง กลุ่มดังกล่าวกลับไม่พอใจจนมีปากเสียงกันขึ้น จึงมีชาวบ้านแจ้งตำรวจสภ.ด่านมะขามเตี้ย ส่งตำรวจสายตรวจมาระงับเหตุ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นยอมออกจากพื้นที่ไป
แต่หลังจากตำรวจกลับไปได้ประมาณ 30 นาที วัยรุ่นกลุ่มเดิมก็พากันวนกลับมาอีกครั้ง นายพัชระผู้เสียชีวิต ซึ่งนั่งรวมกลุ่มรับประทานหมูกระทะกับเพื่อน จึงลุกขึ้นไปสอบถามว่าจะเอาอย่างไร
นายขันธ์ชัยหนึ่งในกลุ่มดังกล่าวก็ชักปืนจ่อยิงศีรษะนายพัชระทันที จากนั้นกลุ่มเพื่อนนายพัชระและแก๊งวัยรุ่นต่างก็ชักปืนออกมายิงสวนใส่กัน ทำให้ลูกหลงถูกเด็กชาย 3 คนได้รับบาดเจ็บไปด้วย จากนั้นทั้งหมดแยกย้ายกันหลบหนี
คาดว่าระหว่างสาดกระสุนใส่กันนายขันธ์ชัยถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงกระเสือกกระสนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี แต่ไปได้แค่ 50 เมตรก็หมดแรงจนรถล้มคว่ำ นอนตายโดยที่เพื่อนร่วมแก๊งไม่รู้เรื่อง กระทั่งมีผู้มาพบศพดังกล่าว
รถจยย.ของนายขันธ์ชัย / หนึ่งในอาวุธปืนที่ก่อเหตุ
แม้ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่าเป็นเหตุซึ่งหน้า แต่เจ้าหน้าที่ก็สืบทราบว่า กลุ่มนายพัชระซึ่งเป็นคนในพื้นที่ และกลุ่มนายขันธ์ชัยซึ่งเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ อ.เมืองกาญจน์ เป็นคู่อริกันเคยมีปัญหาทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้ ในคืนวันเกิดเหตุทั้งคู่นัดจะไปเคลียร์ปัญหากันที่บริเวณอาคารทดน้ำชุกกระเพรา จนเสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย
ต่อมาวันที่ 11 มิ.ย. พ.ต.ท.กาจภณ ปฐมัง รองผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง สว.สส. ร.ต.อ.พัฒนา ภมรพล รอง สว.สส. นำกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ บุกจับนายณัฐวุฒิ หรือเบนซ์ ตันเจริญ อายุ 21 ปี และนายอานันต์ หรือหนุ่ม จันดี อายุ 30 ปี ได้คาบ้านพักทั้งคู่ในเขตตัวเมืองกาญจน์ พร้อมอาวุธปืน ขนาด 9 ม.ม. ที่ใช้ก่อเหตุ คนละกระบอก ยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมลงมือ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายพัชระจริง
นอกจากนั้นยังเชิญตัวเพื่อนของทั้งคู่อีก 1 คน ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ร่วมก่อเหตุมาสอบปากคำ พร้อมกันตัวไว้เป็นพยาน
คุม 2 ผู้ต้องหาไปทำแผนฯ
ล่าสุดพนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพิ่มเติมเพื่อตามล่าตัวนายสุทธิพงษ์ สมทา ฉายา “ตั้ม นากาญจน์” อายุ 31 ปี หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี และคาดว่าจะมีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งสองฝ่ายเพิ่มเติมตามมาอีกหลายคน
แต่ก็ยังมีอีกเรื่องที่ตำรวจยังต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง นั่นก็คือเข้มงวดกวดขันการพกพาอาวุธปืน เพื่อป้องกันและปราบปรามกลุ่มอาชญากร ที่แฝงมาในรูปแบบของแก๊งวัยรุ่น
