จดหมาย เปิดผนึก สมคบคิด “รัฐประหาร” กับ ประชาธิปัตย์
หากความหงุดหงิดอันมาจากพรรคเพื่อไทยเนื่องแต่ “พลังดูด” มีการสรุปจากสื่อหลายสำนักเป็นอาการในเรียกว่า “พล่าน” ในสำนวนไทย
แล้วอาการของพรรคประชาธิปัตย์เนื่องแต่ “จดหมายเปิดผนึก” จะเรียกว่าอะไร
ไม่ว่าจะปรากฏจากระดับรองโฆษก ไม่ว่าจะปรากฏจากระดับหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย ไม่ว่าจะปรากฏจากระดับรองเลขาธิการ
ล้วนไม่แตกต่างไปจากอาการ “พล่าน” เลยแม้แต่น้อย
คำถามก็คือ เป็นความหงุดหงิดงุ่นง่านจากสาเหตุอะไรระหว่าง 1 การที่ นายนคร มาฉิม ออกมาเปิดโปงในเรื่อง “แผนสมคบคิด” หรือ 1 เพราะ นายนคร มาฉิม ขอโทษ 2 พี่น้อง “ชินวัตร”
น่าคิด น่าพิจารณา
ความเห็น “ร่วม” ต่อกรณีจดหมายเปิดผนึก นายนคร มาฉิม จากหลายระดับภายในพรรคประชาธิปัตย์ คือการสร้างความชอบธรรมในการเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย
เหมือนกับการตัดสินใจของ นายสกลธี ภัททิยกุล ก่อนหน้านี้
เพียงแต่เป้าหมายเฉพาะหน้าของ นายสกลธี ภัททิยกุล คือตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. ขณะที่เป้าหมายใหญ่กว่าคือพรรคพลังดูดจากประชารัฐ
และ นายสกลธี ภัททิยกุล มิได้ตำหนิพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่จดหมายเปิดผนึก นายนคร มาฉิม สร้างความชอบธรรมให้กับการกล่าวคำขอโทษทั้งต่อ นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างยาวเหยียด
ตรงนั้นแหละที่พรรคประชาธิปัตย์รับไปเต็ม-เต็ม
รายละเอียด “แผนสมคบคิด” อันมาจาก นายนคร มาฉิม เท่ากับไล่เรียงประวัติศาสตร์ยุคใกล้ตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 มายังก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
เพียงแต่เป็นการมองต่างมุมกับพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นเอง
หลายคนจึงอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการฟ้องร้องต่อ นายนคร มาฉิม ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายหมิ่นประมาท หรือกฎหมายคอมพิวเตอร์
เพราะมองเห็น “ภาพ” ล่วงหน้าว่าเข้มข้นแน่
เนื่องจากห้วงเวลาอันจดหมายเปิดผนึกระบุมีความสัมพันธ์กับบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลายเรื่องหลายกรณี
ไม่ว่ากะ “พันธมิตร” ไม่ว่ากะ “กปปส.”
ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีท่าทีและบทสรุปอย่างไรต่อกรณีจดหมายเปิดผนึกของ นายนคร มาฉิม แต่เชื่อได้เลยว่าเนื้อหาอย่างนี้จะยิ่งเข้มข้นเมื่อใกล้ถึง “วันเลือกตั้ง”
ถึงไม่มาจาก นายนคร มาฉิม ก็มาจากพรรคการเมืองอื่น
ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาชาติไทย ต่างก็มีมุมมองแทบไม่แตกต่างไปจาก นายนคร มาฉิม มากนัก
ยิ่ง “พรรคเกรียน” ยิ่งมากด้วย “ข้อมูล”
