สดจากสนามข่าว : นาทีลั่นไกสยองสุโขทัย ผัวหึงโหด-ระแวงตีจาก ยิงดับสาวเซเว่นคาร้าน
สดจากสนามข่าว : พิศวาสฆาตกรรม ต้องถือเป็นคดีอาชญากรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนับวันก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น
ล่าสุดก็เกิดเหตุสลดขึ้นที่ราชธานีเก่าแก่อย่างเมืองสุโขทัย
ช่วงค่ำวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ณรงค์ อุตบัววงศ์ สว.สอบสวน สภ.เมืองสุโขทัย รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตายภายในร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บริเวณสี่แยกคลองโพ อ.เมืองสุโขทัย
ภาพนาทีลั่นไก
หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมพ.ต.อ.ประมวล ยิ้มจันทร์ ผกก. พ.ต.ท.นราธิป คนธรรม รองผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานบก.ภ.จว.สุโขทัย และแพทย์เวรนิติเวช ร.พ.สุโขทัย
ที่เกิดเหตุเป็นร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมัน บริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์คิดเงิน พบร่างน.ส.สุพิชฌาย์ สารทเทซ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226/5 ม.6 ต.บ้านหลุม อ.เมือง จ.สุโขทัย สวมชุดพนักงานของร้านดังกล่าวนอนหงายจมกองเลือดอย่างน่าสยดสยอง
จุดเกิดเหตุ
แพทย์ชันสูตรพลิกศพ พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองที่แผ่นหลัง เสียชีวิตคาที่
เพื่อนร่วมงานให้การว่า ผู้ก่อเหตุก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ นายไพโรจน์ เกิดช้ำ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 291/3 ม.6 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย สามีของผู้ตาย
โดยทั้งคู่อยู่กินกันมานานกว่า 5 ปี และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 4 ขวบ แต่พักหลังประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งคู่เกิดทะเลาะกันอย่างหนักทั้งที่บ้านพัก และที่ทำงานของฝ่ายหญิงเป็นประจำ ด้วยเหตุที่นายไพโรจน์ระแวงว่า น.ส.สุพิชฌาย์จะปันใจให้ชายอื่นและและพยายามจะตีตัวออกห่าง
ตำรวจรุดตรวจสอบ
ที่ผ่านมานายไพโรจน์มักโพสต์เฟซบุ๊กต่อว่าภรรยา และยังโพสต์ปืนขู่หลายครั้ง แต่ไม่มีใครคิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นมาฆ่าแกงกันจริงๆ
ก่อนเกิดเหตุนายไพโรจน์อุ้มลูกชายมาพูดคุยกับน.ส.สุพิชฌาย์ แต่เกิดทะเลาะกันรุนแรง ก่อนนายไพโรจน์จะใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตายจนเสียชีวิต ก่อนพาลูกหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ พบภาพนายไพโรจน์อุ้มลูกชายเข้ามาหาผู้ตายในรอบแรก แต่หลังพูดคุยกันได้พักเดียวก็เกิดมีปากเสียงกันค่อนข้างรุนแรง ฝ่ายหญิงจึงบอกให้นายไพโรจน์พาลูกออกไปจากร้านก่อน
หลังจากนายไพโรจน์พาลูกชายไปนั่งบนรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าร้าน ก็เดินกลับมาหาผู้ตายที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ ก่อนชักปืนที่พกมาจ่อยิงระยะเผาขน ต่อหน้าต่อตาเพื่อนร่วมงานอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้กัน จนน.ส.สุพิชฌาย์ทรุดลงไปนอนจมกองเลือดเสียชีวิตคาที่ จากนั้นรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปพร้อมลูกชาย
เมื่อทราบเบาะแสทั้งหมด พ.ต.อ.ประมวลจึงสั่งการให้ พ.ต.ท.นราธิประดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกติดตามจับกุมตัวนายไพโรจน์ โดยแกะรอยจากภาพวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าจะใช้หลบหนี และจัดกำลังอีกส่วนไปตรวจสอบที่บ้านของนายไพโรจน์ทันที
หลังถูกตำรวจทั้งเมืองสุโขทัยตามล่าทั้งคืน ในที่สุดนายไพโรจน์ก็ทนแรงกดดันต่อไปไม่ไหว ให้ญาติพาเข้ามอบตัวต่อพ.ต.ท.ณรงค์ ที่สภ.เมืองสุโขทัย พร้อมอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ที่ใช้ก่อเหตุ ในช่วงสายวันที่ 4 ธ.ค. โดยรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา เหตุเพราะความหึงหวง
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวพร้อมปืนของกลางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยมีบรรดาไทยมุงคอยดูอยู่เป็นจำนวนมาก
จากนั้นควบคุมตัวกลับไปดำเนินคดีที่สภ.เมืองสุโขทัย ก่อนรวบรวมหลักฐานทั้งหมดประกอบสำนวนคดี ส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดสุโขทัย เพื่อรับโทษจากกรรมที่ก่อไว้ตามอาญาบ้านเมือง
ปิดฉากเรื่องราวที่เริ่มต้นจากความรัก แต่จุดจบสุดท้ายต้องลงเอยด้วยโศกนาฏกรรมไปอีกคดี
โดย พินิจ โชติชื่น / ธันยภัทร ปริมาตร / เรื่อง/ภาพ
