ผ่าคดี‘น้องขวัญ’ลวงโอน ‘นัท โอนไว’สูญร่วมแสน จนมุมตร.-ร่ำไห้สารภาพ : สดจากสนามข่าว

 

ผ่าคดี‘นัทโอนไว’สูญร่วมแสน จนมุมตร.-ร่ำไห้สารภาพ : สดจากสนามข่าว – มีคำกล่าวว่า คนเรา รู้หน้า ไม่รู้ใจ แต่สำหรับโลกยุคดิจิตอลเช่นทุกวันนี้ ต่อให้รู้หน้า ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร

เป็นฮือฮาข่าวมาระยะหนึ่ง เมื่อเพจดังนำข้อมูลของหญิงสาวรายหนึ่งที่อ้างว่าชื่อน้องขวัญมาแฉ ว่ามีพฤติกรรมหลอกลวง ใช้รูปของหญิงสาวหน้าตาดี มาตั้งเป็นโปร์ไฟล์เฟซบุ๊ก ก่อนแช็ตหลอกลวงเหยื่อทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวให้โอนเงินให้ จนมีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายราย

หนึ่งในนั้นมี นายสรฉัตร ผลวัฒนาเจ้าของฉายา “นัท โอนไว”หนุ่มใจซื่อ ที่โดนหญิงสาวหลอกโอนเงินไปเกือบแสนบาท โดยไม่เคยเจอหน้าผู้หญิงคนดังกล่าวเลย กระทั่งวันที่ตำรวจกองกํากับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตํารวจนครบาล จับกุมตัวหญิงดังกล่าวได้ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับอึ้งเมื่อพบว่าตัวจริงไม่ตรงปกอย่างแรง

ผ่าคดี‘น้องขวัญ’ลวงโอน ‘นัท โอนไว’สูญร่วมแสน

เสี่ยนัท โอนไว

วันที่ 6 ธ.ค. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัยผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษฯ พ.ต.ท.นพดล เจริญทรัพย์ พ.ต.ท.วีระวิทธ์ ผลประสิทธิ์ พ.ต.ท.สมรวย อินต๊ะนัย พ.ต.ท.สรรเพชร สุวรรณไตร พ.ต.ท.ธิติพงษ์ สียารอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.ต.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.วิเคราะห์ข่าวฯ ร.ต.อ.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ สว.วิเคราะห์ข่าวฯ ร.ต.อ.สิทธิเดช หาญจริงรอง สว.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก. วิเคราะห์ข่าวฯ

ร่วมกันแถลงผลจับกุมนางนันท์นลิล ภควัตสุวรรณ หรือผึ้ง อายุ 32 ปี ในข้อหาฉ้อโกง หลังจับตัวได้ที่ลานจอดรถหน้าอาคาร 6 การเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ หลังหลบหนีไปอยู่ตามห้องเช่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแถวจอมทอง ลาดพร้าว และห้องเช่าที่ย่านเคหะร่มเกล้า

ผ่าคดี‘น้องขวัญ’ลวงโอน ‘นัท โอนไว’สูญร่วมแสน

นางนันท์นลิล ภควัตสุวรรณ น้องขวัญไหว้ขอโทษ

สําหรับพฤติกรรมของนางนันท์นลิล จะสมัครแอพพลิเคชั่นจูโม่ (JAUMO) ซึ่งเป็นแอพฯที่สร้างโปร์ไฟล์ เพื่อหาคู่ในสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อผู้เสียหายเห็นรูปโปร์ไฟล์ ที่ทางคนร้ายได้นำภาพของบุคคลอื่นมาตั้งเป็นรูปของตนเองก็ได้หลงเชื่อ จากนั้นได้มีการติดต่อเพื่อสนทนากันผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์

คนร้ายได้หลอกผู้เสียหายให้โอนเงินไปให้ โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา จนผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินไปหลายครั้ง เป็นเงินรวม 89,330 บาท จากนั้นคนร้ายก็ได้ปิดช่องทางการติดต่อสื่อสาร เมื่อทางผู้เสียหายรู้ตัวว่าตนเอง ถูกหลอกแล้ว จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี

หลังเป็นข่าวหญิงสาวที่ถูกคนร้ายนำรูปของ ตนเองมาใช้ทำให้เสียชื่อเสียงก็ได้ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ตำรวจจึงสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมได้

ขณะที่ นางนันท์นลิลรับทั้งน้ำตาว่า ทำลักษณะนี้มา 6-7 ครั้ง ในเวลา 3 ปี เพราะไม่มีเงินเลี้ยงลูก 2 คน โดยก่อนหน้านี้เคยเล่นมาแล้วหลายแอพฯ แต่ไม่สำเร็จ จนมาเจอแอพฯนี้ ซึ่งคนที่เสียเงินมากที่สุดคือ 1 แสนบาท แต่ผู้เสียหายยังไม่ได้แจ้งความ และอยากขอโทษผู้เสียหายทั้ง 2 รายทำให้เดือดร้อน

ด้านพ.ต.อ.พรศักดิ์เผยว่า ก่อนหน้านี้คนร้ายใช้บัญชีธนาคารของตนเอง แต่กลัวตำรวจจับได้จึงเปลี่ยนเลขบัญชีเป็นของมารดา ซึ่งตำรวจต้องเอาไปตรวจสอบ ว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ทั้งนี้หากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมก็จะอายัดตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า ในโลกสังคมปัจจุบัน การติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นนั้นเป็นเรื่องที่ง่าย และ มีความสะดวก รวดเร็ว จึงควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขนาดคำกล่าวที่ว่า “รู้หน้า ไม่รู้ใจ” ยังว่าดูยากแล้ว แต่สำหรับเคสนี้ “รู้หน้า ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร”นั้นดูยากยิ่งกว่า

ส่วนของผู้ที่ได้รับความเสียหาย หากผู้เสียหายรายใดยังไม่แจ้งความร้องทุกข์ ขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ในท้องที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีนี้ เพื่อจะได้อายัดตัวผู้ต้องหานี้ตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ หากมีเบาะแส หรือมีข้อสงสัยว่าจะถูกหลอกลวง สามารถให้เบาะแส หรือ ขอคำปรึกษาได้ที่เฟซบุ๊ก “วิเคราะห์ข่าว นครบาล”เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาต่อไป

การแถลงข่าวครั้งนี้มี นายสรฉัตร ผลวัฒนาหรือเจ้าของฉายา “นัท โอนไว”และ น.ส.อริยพัช มีแก้ว หรือ จีอายุ 37 ปี หญิงสาวผู้เสียหายอีกรายที่อยู่ในรูปโปรไฟล์ของน้องขวัญ มาร่วมฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย โดยนางนันท์นลิล ผู้ต้องหาได้ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย ทั้งสองราย พร้อมทั้งร้องไห้ก่อนเจ้าหน้าที่จะพาตัวเข้าไปสอบปากคำต่อ

นายสรฉัตรเปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่ตำรวจจับคนร้ายได้ ส่วนตัวได้ไปไหว้พระ 9 วัดที่ภาคอีสาน เพราะไม่อยากให้คนร้ายไปก่อเหตุลักษณะนี้กับใครอีก และหลังจากที่เกิดเหตุก็มีผู้หญิงทักมาให้โอนเงินให้ เช่น เติมเงินโทรศัพท์ แต่ก็ไม่ได้โอนให้ใคร ซึ่งจะโอนให้เฉพาะคนที่สนิทเพียงเท่านั้น หลังจากที่คนร้ายยกมือไหว้ขอโทษ ตนก็ ยกโทษและอภัยให้ ส่วนเงินที่โอนไปให้ ก็ทำใจไว้แล้วว่าอาจจะไม่ได้คืน

จบแบบสวยหรูไปอีก 1 คดี แม้ ผู้เสียหายจะไม่ได้เงินคืนกับคนที่หลอกลวงทางโซเชี่ยล คงเป็นบทเรียนกับ คนหลายๆ คน ที่โอนเงินให้คนอื่นโดยไม่รู้จักหน้า

สดจากสนามข่าว โดย..อดิศร จิตตเสวี เรื่อง/ภาพ

 

…อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องได้ที่..

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน