สดจากสนามข่าว : ผ่าคดีอิหร่านจับมือยากูซ่า หลอกหนุ่มญี่ปุ่นเที่ยวฟรี ลวงฝากขนเสื้อชุบยาไอซ์

สดจากสนามข่าว : มีคำเตือนออกมาเป็นระยะๆ สำหรับผู้ที่จะเดินทางด้วยสายการบิน ว่ามิให้รับฝากของหรือกระเป๋าจากคนแปลกหน้า เพราะอาจทำให้ต้องตกเป็นผู้ต้องหาขนยาเสพติดได้ง่ายๆ ยิ่งหากไปถูกจับกุมในประเทศที่มีกฎหมายรุนแรงเด็ดขาดในเรื่องยาเสพติด อาจโดนโทษหนักถึงขั้นต้องโทษประหารชีวิต

เหตุการณ์ล่าสุดแม้นไม่ได้เกิดกับคนไทย แต่ก็สามารถนำมาเป็นบทเรียน เพื่อจะได้ไม่พาตัวเองเข้าไปสู่ความยุ่งยากได้

สดจากสนามข่าว

แผนผังคดี

 

ย้อนไปเมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 10 ธ.ค. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม.

ร่วมกันกับนายซาชิโอะ ฮิกาชิอุระ เลขานุการโทและกงสุล สถานทูตญี่ปุ่น ร่วมแถลงผลจับกุมนายมูฮัมหมัด อาลี อีซาซี่ อายุ 43 ปี ชาวอิหร่าน พร้อมของกลางไอซ์น้ำหนัก 3.65 ก.ก. เสื้อผ้าชุบสารละลายไอซ์ น้ำหนัก 5.8 ก.ก. มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท โดยสามารถจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในซอยสุขุมวิท 2 เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา

สดจากสนามข่าว

ตรวจสอบของกลาง

พล.ต.ต.อิทธิพล เปิดเผยที่มาที่ไปของคดีว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้ประสานมาว่า พบนักท่องเที่ยวหนุ่มชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง ถูกหลอกให้มาท่องเที่ยวฟรีแล้วขนสิ่งของต้องสงสัยเข้ามา

บก.สส.สตม. จึงสอบสวน โดยนักท่องเที่ยวหนุ่มให้การว่า เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนหน้าพบข้อความชักชวนผ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ให้เขียนรีวิวบล็อกการท่องเที่ยว ใครเขียนได้ดีจะให้รางวัลไปเที่ยวฟรี แถมมีพ็อกเกตมันนี่ให้

ปรากฏว่ารีวิวของเจ้าตัวชนะเลิศ ได้รับรางวัลให้เที่ยวฟรีระบุเส้นทางจากประเทศญี่ปุ่น มายังประเทศไทย ไปเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และสิ้นสุดปลายทางที่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยจะอยู่แต่ละประเทศนาน 2 วัน แถมยังให้เงินเป็นค่าใช้จ่ายอีกกว่า 200,000 บาท

สดจากสนามข่าว

แถลงรายละเอียดคดี

โดยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นคนดังกล่าว ได้เดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นมีคนจากเว็บไซต์ดังกล่าว แจ้งให้นักท่องเที่ยวรายนี้รับกระเป๋าเดินทางจากทีมงาน เพื่อเตรียมเดินทางต่อไปที่ประเทศจีน โดยอ้างว่า นักท่องเที่ยวที่มาไทยก่อนหน้านี้ลืมเอาไว้ โดยมีค่าใช้จ่ายเป็นเงินสดให้อีก 66,000 บาท

แต่เมื่อนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเปิดกระเป๋าก็พบเสื้อผ้าลักษณะแข็งผิดปกติ เหมือนถูกแช่แข็งไว้ จึงประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตและสตม. จากการตรวจสอบเชื่อว่าเป็นของผิดกฎหมาย ทางสตม.จึงวางแผนให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นทำทีป่วยหนัก ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ และขอให้ส่งคนมารับกระเป๋าเดินทางกลับคืนไป

สดจากสนามข่าว

กระเป๋าใส่ยาเสพติด

พล.ต.ต.อิทธิพล เปิดเผยต่อไปว่า ต่อมา นายมูฮัมหมัด อาลี อีซาซี่ ชาวอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้นำกระเป๋าเดินทางมาให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ได้ติดต่อมาขอรับกระเป๋าคืน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและเข้าจับกุม จากการตรวจค้นภายในกระเป๋า พบเสื้อผ้าแข็งจากการชุบสารเสพติดบรรจุในถุงพลาสติกใส 4 ห่อ ซึ่งเป็นวิธีซุกซ่อนยาเสพติดที่พบเป็นครั้งที่ 2 ในประเทศไทย

นอกจากนี้ยังพบไอซ์ชนิดเกล็ดขาว ห่อกระดาษคาร์บอนดำ 6 ห่อ ซ่อนในผนังกระเป๋า เจ้าหน้าที่จึงขยายผล ก่อนเข้าตรวจค้นที่พัก 2 จุด คือ ห้องพักที่คอนโดมิเนียมใน ซ.พัฒนาการ 42 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ พบกระเป๋าลักษณะเดียวกัน 1 ใบ

ขณะที่การตรวจค้นจุดที่ 2 คือ ห้องพักคอนโดมิเนียม ใน ซ.พัฒนาการ 26 พบกระเป๋าแบบเดียวกัน พบไอซ์อีกจำนวน 5 ห่อ น้ำหนักรวม 1.364 ก.ก. พร้อมอุปกรณ์สำหรับดัดแปลงและซุกซ่อนยาเสพติด จึงยึดไว้เป็นของกลาง

จากการสอบสวน นายมูฮัมหมัด อาลี อีซาซี่ ให้การยอมรับว่า ทำหน้าที่เป็นคนบรรจุยาเสพติดลงในกระเป๋าเดินทาง จากนั้น จะส่งกระเป๋าให้กับเหยื่อ โดยตนเองเป็นผู้นำกระเป๋าใบดังกล่าว ไปมอบให้กับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น

นายอาลียังรับอีกว่า ร่วมกับเพื่อนชาวอิหร่านและเครือข่ายที่เป็นกลุ่มยากูซ่าในประเทศญี่ปุ่น หลอกลวงเหยื่อให้นำกระเป๋าเดินทางที่ซุกซ่อนยาเสพติดไปในประเทศต่างๆ ในโซนเอเชียและยุโรป ทำมานานประมาณ 2 ปี

สาเหตุที่เลือกหลอกคนญี่ปุ่น เนื่องจากหนังสือเดินทางของญี่ปุ่นได้รับความน่าเชื่อถือเป็นอันดับ 1 ทำให้สามารถเดินทางเข้าได้ทุกประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” หลังจากนี้จะสืบสวนขยายผล เพื่อทลายเครือข่ายนี้ต่อไป

หนุ่มญี่ปุ่นคนนี้มีไหวพริบดี ทำให้ไม่ตกกระไดพลอยโจน กลายเป็นผู้ร่วมขบวนการค้ายาข้ามชาติโดยไม่ตั้งใจ

โดย สมศักดิ์ ชฎารัตน์ เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน