ชกไม่มีมุม

วงค์ ตาวัน

เหตุการณ์ข้าราชการระดับรองอธิบดีของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โดนดำเนินคดีที่ญี่ปุ่น กรณีขโมยภาพที่แขวนโชว์บริเวณทางเดินในโรงแรมที่เข้าพัก ซึ่งคลี่คลายด้วยการเจรจาชดใช้กับโรงแรมที่เกิดเหตุ จนรอดพ้นการดำเนินคดี ได้รับการปล่อยตัวกลับไทยแล้ว

เมื่อลงเอยในทางที่ดี ก็ย่อมเป็นเรื่องน่ายินดี

แต่หากย้อนกลับไปยังช่วงแรกที่เกิดเหตุการณ์

สื่อมวลชนพากันเสนอข่าวอย่างครึกโครม เพราะเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดกับข้าราชการระดับสูงของประเทศเรา

อีกทั้งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับคนระดับนี้ได้

ไม่ใช่หมายความถึงเรื่องฐานะ

แต่หมายถึงระดับการยับยั้งชั่งใจ ความรับผิดชอบ และการแบกชื่อเสียงของประเทศ!

ในแง่นี้สื่อมวลชนจำเป็นต้องเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา

อีกทั้งไม่ใช่แค่เป็นข่าวใหญ่เฉพาะสื่อในบ้านเรา แต่สื่อในญี่ปุ่นก็เสนอจริงจัง สื่อต่างประเทศโดยรวมก็สนใจ เพราะเป็นเรื่องไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

ขณะเดียวกัน มีปฏิกิริยาตามมา ต่อการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนไทย!?!

แวดวงข้าราชการบางส่วน บุคคลในรัฐบาล ตำหนิติเตียน คล้ายกับว่าสื่อมวลชนนำเสนอข่าวนี้ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อประเทศชาติ

แถมยังพยายามอธิบายด้วยว่า เป็นเรื่องความผิดเฉพาะบุคคล ไม่ควรนำเสนออย่างกระทบสถาบันข้าราชการ และต่อชื่อเสียงประเทศ

กลายเป็นงั้นไป!!

คงคล้ายๆ เหตุร้ายที่เกิดกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาบ้านเรา พอเกิดเรื่องไม่ดีไม่งาม ก็พยายามเรียกร้องสื่อมวลชนอย่าเสนอข่าว เพราะจะกระทบต่อภาพพจน์การท่องเที่ยว

ราวกับว่า ถ้าสื่อมวลชนไทยช่วยกันปิดข่าว แล้วชาวโลกจะไม่รู้เรื่อง จะไม่เกิดผลกระทบต่อภาพพจน์ไทย

เป็นไปไม่ได้เลย

ต่อให้สื่อไทยเงียบเฉย สื่ออื่นๆ ทั่วโลกก็นำเสนออยู่แล้ว เข้าทำนองเอาใบบัวมาปิดไม่มีทางมิด!!

มีแต่ต้องยอมรับความจริง และแก้ไขปัญหานั้นให้ดีที่สุด

อีกทั้งการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาของสื่อ ก็คือ ระบบตรวจสอบสังคมอย่างหนึ่ง

ตรวจสอบทุกภาคส่วนของประเทศ เพื่อให้ทุกๆ ฝ่ายทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ถ้าไม่มีสื่อทำหน้าที่กระจกสะท้อนสังคม ก็เหมือนขาดเครื่องมืออย่างหนึ่งในการตรวจสอบสังคมโดยรวม

ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ เรื่องความผิดเฉพาะคน ไปยันความผิดในการบริหารประเทศชาติ!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน