ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
เสร็จจากการเปิดไต่สวนพยาน 3 วันไปแล้ว ระหว่างนี้ต้องรอการสรุปความเห็นของศาลจังหวัดนครพนม ก่อนส่งความเห็นพร้อมสำนวนไต่สวนไปยังศาลฎีกา เพื่อสรุปวินิจฉัยว่า สมควรต้องรื้อคดีที่เคยตัดสินว่าครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร กระทำผิดในคดีขับรถชนคนตายหรือไม่
ส่วนจะรู้กันเมื่อไรนั้น ศาลท่านจะแจ้งวันนัดอ่านคำวินิจฉัยให้ทราบกันต่อไป
จะยืนตามคำพิพากษาศาลฎีกาเดิม หรือจะให้รื้อฟื้นคดีใหม่ คงไม่มีใครรู้ได้ล่วงหน้า!!
ทั้งหลายทั้งปวง ขึ้นกับความเห็นของศาลที่เปิดไต่สวนและคำวินิจฉัยของศาลฎีกาที่ทุกฝ่ายต้องเคารพและปฏิบัติตาม
แต่ในมุมมองของบรรดานักกฎหมาย ผู้รอบรู้ที่สนใจฟังการเบิกความของพยาน 2 ฝ่ายในชั้นไต่สวน
ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอื้ออึง เมื่อไม่มีการนำตัวนายสับ วาปี พยานสำคัญขึ้นเบิกความ!
ที่ต้องสนใจ ก็เพราะนายสับ วาปี คือต้นเรื่อง ที่ครูจอมทรัพย์นำมาใช้ร้องเรียนเพื่อขอรื้อฟื้นคดี
อ้างคำให้การของนายสับ วาปี ที่ออกมายอมรับว่า เป็นคนขับรถชนคนตายตัวจริง ซึ่งมีบันทึกคำให้การต่อตำรวจสภ.นาโดน นครพนม เมื่อปี 2557
นี่คือหลักฐานใหม่ที่ใช้อ้างเพื่อร้องให้รื้อฟื้นคดี จนศาลจังหวัดนครพนมต้องเปิดการไต่สวนพิจารณา
แต่พอถึงเวลาไต่สวนจริง กลับไม่นำพยานหลักฐานใหม่ พยานหลักฐานสำคัญนี้ ออกมาใช้!?
ขณะที่ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อ้างว่าตัดพยานปากนี้ออก เพราะแนวทางสู้คดีเน้นการพิสูจน์ให้เห็นว่าครูจอมทรัพย์ไม่ใช่คนขับรถชนคนตายในคดีนี้
บรรดากองเชียร์ ฟังแล้วก็เคลิบเคลิ้ม
แต่บรรดาผู้รอบรู้กฎหมายมองอีกแบบ!
อีกทั้งแสดงว่า ข้อมูลของฝ่ายตำรวจที่เปิดเผยมาก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของนายสับ วาปี
จะต้องมีผลอย่างยิ่ง ให้ฝ่ายกระทรวงยุติธรรมต้องตัดพยานปากนี้ออก
แต่ก็น่าคิดอีกว่า ก็ในเมื่อคำให้การของนายสับ คือ ต้นเรื่องทั้งหมด แล้วจะมาปรับเปลี่ยนแนวการสู้คดี
เลยเผลอนึกไปว่า กำลังดูทนายความใช้เทคนิคกฎหมายทุกทางเพื่อแก้คดีให้ลูกความอะไรแบบนั้นมากกว่า!
อีกประเด็นที่ฝ่ายกระทรวงยุติธรรมงัดออกมาใช้สู้คดี คือ การนำเอาผลการตรวจรถ ที่ส่งให้กรมการขนส่งฯตรวจพิสูจน์ ก่อนจะเบิกความไม่กี่วัน
นักกฎหมายวิจารณ์กันมากว่า ใช้ผลตรวจรถหลังเหตุการณ์ผ่านไป 12 ปีแล้วหรือ
ขณะที่พนักงานสอบสวนของตำรวจ ได้ตรวจพิสูจน์รถคันนี้ตั้งแต่ปีที่เกิดเหตุไปแล้ว ตรวจด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการในสารบบยุติธรรม
ทั้งไม่มีสับ วาปี ทั้งผลตรวจรถหลังผ่านไป 12 ปี
คือประเด็นสนทนาฮาเฮลั่นขอบเวที!
