ผ่าแผนแก๊งมนุษย์ป้าแสบ

จัดฉากตุ๋น4ปีสูญ235ล้าน

อีกคดีจับหัวโจกแชร์ลูกโซ่

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ผ่าแผนแก๊งมนุษย์ป้าแสบเชื่อว่าหลายคนคงคิดเหมือนกันเมื่อได้อ่าน ข่าวแก๊งต้มตุ๋นหรือขบวนการแชร์ลูกโซ่ ว่าหากไม่โลภเสียอย่าง ก็คงไม่ต้องตกเป็นเหยื่อแก๊งพวกนี้

แต่หากมองอีกมุมถ้าแก๊งเหล่านี้ไม่ครบเครื่องทั้งลูกล่อลูกชน ก็คงไม่สามารถหลอกลวงชาวบ้านหากินอยู่ได้

ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาแก๊ง ต้มตุ๋นรายใหญ่ กับหัวโจกขบวนการแชร์ลูกโซ่ได้ โดยเมื่อวันที่ 2 เม.ย. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.ฐิติวัสส์ แซมเขียว สว.กก.5 บก.ป.

ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส.สุภิช นิมิตนิวัช อายุ 61 ปีน.ส.ผาณิตา นารถไพรินทร์ อายุ 52 ปี นายชัยชนะ จันทรา อายุ 45 ปี และ น.ส.มาริษา โสมบ้านกรวย อายุ 42 ปี ผู้ต้องหา ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น หลังตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักที่ จ.ราชบุรี จ.นนทบุรี และ จ.สุพรรณบุรี

พล.ต.ต.จิรภพ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณปี พ.ศ.2559 กลุ่มผู้ต้องหาสืบทราบว่า น.ส.ปาณิสรา (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ผู้เสียหาย เพิ่งได้เงินจากการขายที่ดินย่านนนทบุรี มาหลายร้อยล้านบาท จึงเข้าไปตีสนิท

ร่วมกันกุเรื่องว่า น.ส.ผาณิตา กำลังจะได้มรดกจำนวน 1,000 ล้านบาท จากแพทย์หญิงรายหนึ่งที่เสียชีวิตจากเหตุถูกระเบิดจากเหตุการณ์ไม่สงบที่ จ.ยะลา และมรดกจำนวนทั้งหมดมี น.ส.ผาณิตา เป็นผู้มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว แต่ไม่มีเงินค่าดำเนินการ 235 ล้านบาท

ผ่าแผนแก๊งมนุษย์ป้าแสบ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ไปรับตัว

ทั้ง 4 เล่นละครฉากใหญ่ให้น.ส.สุภิช ไปติดต่อขอยืมเงินจากผู้เสียหาย อ้างว่าเมื่อได้เงินมรดกมาแล้วก็จะให้เงินค่าตอบแทนในการยืมเงินครั้งนี้ เป็นเงินถึง 300 ล้านบาท ไม่รวมกับเงินที่ยืมมา เท่ากับว่าผู้เสียหายจะได้เงินค่าตอบแทนครั้งนี้สูงถึง 350 ล้านบาทเลยทีเดียว ระหว่างนี้ก็มีการพูดคุยเจรจาหว่านล้อมกันเป็นระยะ

ผ่าแผนแก๊งมนุษย์ป้าแสบ

คุมตัวนายกิตติกร วรรณวสุธร

พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวต่ออีกว่า ทั้ง หมดหว่านล้อมจนผู้เสียหายเริ่มหลงเชื่อ และให้เงินกับกลุ่มผู้ต้องหาไปครั้งแรก จำนวน 5.2 แสนบาท และครั้งที่สอง จำนวน 5.2 แสนบาท โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้ตีเช็คเงินสดมาให้ไว้เป็นหลักประกัน แต่แล้วกลุ่มผู้ต้องหาก็บอกกับผู้เสียหายว่าอย่าเพิ่งนำเช็คดังกล่าวไปขึ้น ทำให้ ผู้เสียหายก็เริ่มระแวงว่าอาจถูกหลอก จึงได้ติดต่อสอบถามไปยัง น.ส.สุภิช เพื่อถามความจริง

แต่แก๊งนี้เตรียมการเอาไว้แล้ว น.ส. สุภิชให้ผู้เสียหายโทรศัพท์ไปหานายชัยชนะหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา ที่รับบทแสดงละครเป็นนายทหารยศพันโท ซึ่งพูดยืนยันเรื่องมรดกดังกล่าวว่ามีอยู่จริง ก่อนจะพาผู้เสียหายไปเจอน.ส.มาริษาเพื่อนในแก๊งอีกคน ที่สวมบทนายทหารยศร้อยโทเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือ

ผ่าแผนแก๊งมนุษย์ป้าแสบ

จับผู้ต้องหา

ทำให้เหยื่อหันกลับมาตายใจได้ยาวนานกว่า 4 ปี นอกไปจากนี้ในระยะเวลา 4 ปี ยังยอมโอนเงินเพิ่มไปให้กับกลุ่มผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 597 ครั้ง รวมแล้วเป็นเงินกว่า 232,910,617 บาท ก่อนจะมาทราบความจริงว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม ก่อนที่กองปราบปรามจะติดตามวางแผนจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ยกแก๊ง

เบื้องต้นสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับ สารภาพว่าร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายจริง ส่วนเงินทั้งหมดที่ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายมาได้ก็นำมาแบ่งกัน ก่อนจะนำเอาไปซื้อทรัพย์สิน เช่น รถยนต์หรู, บ้าน รวมทั้งที่ดิน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามทรัพย์สินที่เหลือเพื่อคืนให้ผู้เสียหายต่อไป

ขณะที่อีกคดีเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อม นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมตำรวจ สตม. และตำรวจท่องเที่ยว ชุด ศปอส.ตร.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ผ่าแผนแก๊งมนุษย์ป้าแสบ

ตร.โชว์หมายจับ

ร่วมแถลงผลจับกุมนายกิตติกร หรือ กร วรรณวสุธร อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริต โดยการหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ ประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ขณะหลบหนีไปกบดานในประเทศเวียดนาม

คดีนี้ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทาง เทคโนโลยีสารสนเทศ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ เครือข่ายแชร์ลูกโซ่บริษัท กาแฟ แคชแบ็ค จำกัด มีประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนด้วยหลายพันราย และร่วมสมัครสมาชิกกว่า 86,000 บัญชี มูลค่าความเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท

ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ ร่วมขบวนการแล้ว 8 ราย เหลือเพียงนายกิตติกร และน.ส.สิรวัญพร หรือ ภู่ ไชยวัชรคุปต์ อายุ 53 ปี ที่หนีไปกบดานในประเทศเวียดนาม

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติ หมายจับ นายกิตติกร และน.ส.สิรวัญพร พร้อมประสานความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนาม ออกไล่ล่าติดตามจับกุมตัวนายกิตติกร เอาไว้ได้ ส่วนน.ส.สิรวัญพรหลบหนีไปได้

ผ่าแผนแก๊งมนุษย์ป้าแสบ

แผนผังแก๊งตุ๋น

เรื่องราวข้างต้น คงพอเป็นอุทาหรณ์ให้สุจริตชนทั้งหลายได้ระแวดระวัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน