ปิดคดีสยองคาห้างดัง หนุ่มระแวง–เมียปันใจ บุกเอาเรื่องถูกแทงดับ
คอลัมน์ : สดจากสนามข่าว
ปิดคดีสยองคาห้างดัง – ชีวิตคู่ที่อยู่กันด้วย ความไม่ไว้วางใจ หวาดระแวงว่าอีกฝ่ายจะมีคนอื่น เป็นต้นเหตุของคดีสยองขวัญมานักต่อนัก
บ่ายโมงครึ่งวันที่ 11 พ.ค. ลูกค้าในห้างโลตัส ในพื้นที่อำเภอท่ายาง จ.เพชรบุรี ต่างตกใจกับเสียงเอะอะโวยวายบริเวณแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า ภาพที่เห็นคือพนักงานชายของห้างกำลังต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับชายอีกคนชนิดเอาเป็นเอาตาย ท่ามกลางเสียงหวีดร้องด้วยความตกใจของพนักงานสาวๆ ก่อนที่พนักงานชายดังกล่าวจะวิ่งหนีไป ทิ้งชายคู่กรณีนอนจมกองเลือดหายใจรวยรินอยู่ตรงพื้น
พ.ต.ท.สมเดช สกุณา สารวัตรสอบสวน สภ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี รีบรายงานให้ พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนสกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.อาชวิน บุญธรรมเจริญ ผกก.สภ.ท่ายาง ทราบ ก่อนนำกำลังสายตรวจ ชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร ร.พ.ท่ายาง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน รุดไปตรวจสอบทันทีที่รับแจ้งเหตุร้าย
นายสุรินทร์ จันทร ผู้ตาย
ภายในห้างดังกล่าว บริเวณโซนเครื่องขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อคือ นายสุรินทร์ จันทร อายุ 38 ปี ชาว ต.บ้านหาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นห้าง แพทย์ชันสูตรพบบาดแผล ถูกของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ส่วนผู้ก่อเหตุพยานยืนยันตรงกันว่าคือ นายธาดา ทองโมลีวรรณ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นพนักงานของห้างดังกล่าว
จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดภายในห้างทราบว่า ขณะเกิดเหตุนายธาดา ผู้ก่อเหตุยืนอยู่บริเวณโซนขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้เคียงกับโซนขายของเบ็ดเตล็ด จากนั้นนายสุรินทร์ ผู้ตายซึ่งสวมเสื้อสีขาวเดินตรงเข้ามาหานายธาดา นายธาดาตรงเข้าใช้อาวุธพยายามจ้วงแทงนายสุรินทร์ จนมีการยื้อยุดฉุดกันล้มลงบนพื้นนานประมาณ 1 นาที จากนั้นนายธาดาได้วิ่งหลบหนีออกมาจากห้าง แต่ไม่ทราบ เส้นทางการหลบหนี
ส่วนนายสุรินทร์นอนจมกองเลือด อยู่ตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบถาม น.ส.วิจรินทร์ ทิมทอง อายุ 36 ปี ภรรยาของนายสุรินทร์ ผู้ตาย ซึ่งทำงานอยู่ภายในห้างที่เกิดเหตุ เผยทั้งน้ำตาว่า สามีตนเปิดร้านขายของอยู่ภายในห้างอีกแห่งหนึ่ง ในเขตอำเภอเมืองเพชรบุรี ส่วนสาเหตุเกิดจากความเข้าใจผิด คิดว่านายธาดา ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกัน กำลังแอบคบหาอยู่กับตน
สอบภรรยาคนตาย
ที่ผ่านมามีเรื่องทะเลาะกันหลายหน ตนพยายามอธิบายและทำความเข้าใจกับสามีมาโดยตลอด แต่เจ้าตัวก็ไม่เชื่อ ก่อนเกิดเหตุเพียงไม่ถึงชั่วโมง สามีโทรศัพท์มาหาแต่ตนกำลังยุ่งขายสินค้าอยู่ภายในห้างจึงไม่ได้รับโทรศัพท์ ทำให้นายสุรินทร์เกิดการเข้าใจผิดและเกิดอารมณ์หึงหวง รีบเดินทางมาหาตนที่ทำงาน
พอมาถึงก็พบกับนายธาดา เป็นเหตุให้เกิดการท้าทายกัน สามีเดินปรี่เข้ามาหานายธาดา ทำให้นายธาดาใช้มีดจ้วงแทงพร้อมกับยื้อยุดกัน จากนั้นนายธาดาได้รีบวิ่งหลบหนีไป ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างติดตามนายธาดามาดำเนินคดีตามกฎหมาย
รุ่งขึ้นวันที่ 12 พ.ค. นายธาดา ผู้ก่อเหตุ เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.อาชวิน บุญธรรมเจริญ ผกก.สภ.ท่ายาง ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี เลขที่ 126/62 ลงวันที่ 11 พ.ค.2562 พร้อมกับเผยว่า วันเกิดเหตุตนกำลังทำงานอยู่ภายในห้าง
ด้วยความที่ระเเวงว่าจะถูกทำร้ายเพราะผู้ตายเคยข่มขู่เอาไว้จึง พกมีดปลายแหลมที่วางขายอยู่ภายในห้างเก็บไว้ติดตัวตลอด กระทั่งนายสุรินทร์เดินถือไขควงปรี่เข้ามาหา ตนจึงใช้มีดจ้วงแทงนายสุรินทร์ เพื่อป้องกันตัว โดยปัดมือนายสุรินทร์จนไขควงกระเด็นหลุด จึงกระหน่ำทั้งฟันทั้งแทงนายสุรินทร์ไปจำนวนหลายครั้ง
มือมีดมอบตัว
นายธาดากล่าวว่า ไม่คิดว่านายสุรินทร์จะเสียชีวิต ต่อมาตนวิ่งหนีออกมาจากห้าง แล้วขี่รถมาหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าละเมาะหลังบ้าน จำไม่ได้ว่านำอาวุธมีดไปโยนทิ้งไว้ที่ไหน เนื่องจากขณะนั้นตกใจมาก กระทั่งรุ่งเช้าตนได้ให้พ่อประสานกับนายปรีชา ผ่องใส กำนันตำบลท่ายาง พาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ายาง
พ.ต.อ.อาชวินเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่ายาง เร่งรีบสืบสวนติดตามกดดันผู้ต้องหามาตลอดทั้งคืน ขณะเดียวกันร้อยเวรเจ้าของคดีได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุญาตศาลจังหวัดเพชรบุรีดำเนินการออกหมายจับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 11 พ.ค. โดยแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” กระทั่งในเช้าวันนี้ ผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามอบตัวและยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ปิดฉากอีกคดีหนึ่งสยองขวัญ ที่คงไม่ใช่คดีสุดท้าย หากชีวิตคู่ไม่มีความไว้ใจกัน
โดย : กัมปนาท ขันตระกูล / กิตติศักดิ์ รื่นรวย เรื่อง/ภาพ
