ทะลุคนทะลวงข่าว
กลายเป็นปมร้อนกรณีเจ้าหน้าที่ทหารร้อย ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.5 ประจำจุดตรวจบ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ใช้ปืนเอ็ม 16 วิสามัญ นายชัยภูมิ หรือ จะอุ๊ ป่าแส อายุ 17 ปี นักกิจกรรมชาติพันธุ์ลาหู่ และประธานเครือข่ายเยาวชนต้นกล้าชนเผ่าพื้นเมือง เมื่อวันที่ 17 มี.ค.
โดยระบุว่า ตรวจพบยาเสพติดในรถที่นายชัยภูมินั่งมากับเพื่อนที่เป็นคนขับ และนายชัยภูมิมีพฤติกรรมหลบหนี และ จะปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ จึงต้องวิสามัญฆาตกรรม เพื่อป้องกันตัว
ส่งผลให้เครือข่ายภาคสังคม ทั้ง 33 องค์กรชนเผ่า กลุ่มเอ็นจีโอ ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์ข้อกังขาและขอความเป็นธรรม ระบุกระทำเกินกว่าเหตุ ทั้งที่ผู้ตายเป็นเด็กเรียบร้อย เรียนดี ทุ่มเททำกิจกรรมเพื่อผู้ด้อยโอกาส
รวมถึง ฮิวแมนไรต์ วอตช์ และ แอมเนสตี้ฯ ก็ร่วมแถลงจี้ทางการไทยเร่งคลี่คลายคดี
ขณะที่ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ออกมาแถลงยืนยันทหารทำตามหน้าที่ ทหารเขายิงเพียงนัดเดียว ขณะที่เขาทำท่าขว้างระเบิด ถ้าเป็นผม ณ เวลานั้นอาจกดออโต้ได้
ย้ำเป็นการป้องกันตัวเอง ยิงตรงแขน แต่กระสุนไปโดนจุดสำคัญ ถือว่าบุญของน้องมีแค่นี้
การวิสามัญฯจึงสมเหตุสมผล
บิ๊กตี๋ พล.ท.วิจักขฐ์ ที่เพิ่งขยับจากรองแม่ทัพภาคที่ 3 ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 เมื่อต.ค. 2559
ตท.18 จปร.29 และจบโรงเรียนเสนาธิการทหารบก
รับราชการครั้งแรกที่กองพันทหารม้า ที่ 15 จ.น่าน
ย้ายมาที่กองยุทธการ กองทัพภาคที่ 3 เป็นผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 14 อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ผู้ริเริ่มการขอพระราชทานนามค่ายทหารชื่อค่าย เปรม ติณสูลานนท์ ในปี 2539 ปัจจุบันเป็นกองพันทหารม้า ที่ 3
ขึ้นเป็นผอ.กองยุทธการ กองทัพภาคที่ 3 และผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน
จากนั้นเป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 (ผบ.มทบ.32) ค่ายสุรศักดิ์มนตรี
มี.ค. 2559 เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3
ต.ค.ปีเดียวกัน รับงานแม่ทัพภาคที่ 3
ย้ำทหารทำงานตามหน้าที่ กลับตกเป็นคนร้าย
ยืนยันให้ทำคดีอย่างเป็นธรรมทุกฝ่าย
ขณะที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ก็ออกมาเคลื่อนไหวเช่นกัน
อังคณา นีละไพจิตร กสม. วัย 61 ปี ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่หายตัวไปตั้งแต่ 12 มี.ค.2547
พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ / อังคณา นีละไพจิตร / สุมิตรชัย หัตถสาร
จบการศึกษาจากโรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์ และคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
นักเคลื่อนไหวสตรี ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิสตรี กสม. รองประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิ มนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550
ระบุชัดเจน ได้เห็นปรากฏการณ์ที่คนมากมายเรียกร้องความเป็นธรรมให้นายชัยภูมิ ได้แต่หวังว่าความยุติธรรมจะมีจริง
การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่จำต้องได้สัดส่วนกับการกระทำผิด และด้วยเหตุจำเป็นอย่างยิ่งยวดเท่านั้น
แม้การตรวจสอบของกสม. ในส่วนของการวิสามัญฆาตกรรมเกินกว่าเหตุหรือไม่ จะเป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการ ที่มีนายชาติชาย สุทธิกลม เป็นประธาน
แต่กรณีนี้นักปกป้องสิทธิ์ในพื้นที่ ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของนายชัยภูมิ ถูกคุกคาม มีการนำกระสุนปืนไปวางไว้หน้าบ้าน
กสม.จึงต้องเข้าไปดูแลการคุ้มครองพยาน
แจงด้วยว่า ตามกฎหมายต้องถือว่าผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ยิ่งผู้ถูกกล่าวหาเสียชีวิตโดนการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงต้องมีการพิสูจน์ว่าเป็นโดยถูกต้องหรือไม่
จึงอยากขอให้ทุกคนโปรดเคารพสิทธิ์ในการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมแม้นายชัยภูมิ จะเป็นคนไร้สัญชาติก็ตาม
เช่นเดียวกับศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น ที่ส่งทีมทนายลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
นำโดย สุมิตรชัย หัตถสาร ทนายความจากศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชน ท้องถิ่น
ทนายแย้ ปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เป็นผอ.ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น ตั้งศูนย์พิทักษ์ฯขึ้นมาตั้งแต่ปี 2547 เพื่อช่วยเหลือด้านคดีความและจัดอบรมตามชุมชนให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ภาคเหนือ
เตรียมยื่นคำร้องขอไต่สวนการชันสูตรต่อศาลตามมาตรา 150 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
หากศาลชี้ว่า เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่เป็นไปเพื่อป้องกันตัว จะกลายเป็นคดีฆ่าคนตายทันที
ระบุชาวบ้านที่ให้ข้อมูลในเรื่องนี้ได้ ต่างอยู่ในอาการหวาดกลัวว่าจะถูกคุกคาม หากให้ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่รัฐ
ระบุด้วยว่า มีอีกหลายเรื่องที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องอธิบาย มากกว่าจะบอกว่าผู้ตายมีระเบิดแล้วพยายามขว้างเข้าใส่เจ้าหน้าที่
ในส่วนของรัฐบาลสั่งตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ตำรวจ แพทย์ อัยการ และฝ่ายปกครอง เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง
นายกฯ ย้ำว่าใครถูกหรือผิดนั้น ขอให้รอผลสอบก่อน