สดจากสนามข่าว

อธิคม สิงขรณ์ เรื่อง/ภาพ

เหตุการณ์สุนัขสายพันธุ์ดุ ทั้ง “พิตบูล” ทั้ง “ร็อตไวเลอร์” กัดคนจนบาดเจ็บสาหัสหรือถึงขั้นเสียชีวิต เกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และคงมีต่อไปเรื่อยๆ หากคนที่คิดเลี้ยงสุนัขประเภทนี้ยังคิดแต่เพียงซื้อมาเลี้ยง ให้อาหารให้ที่นอนแล้วก็จบกัน แต่ไม่เคยเข้าใจอุปนิสัยแท้จริงของสายพันธุ์

อย่างกรณีล่าสุดที่เกิดเหตุขึ้น เมื่อวันที่ 27 มี.ค. พ.ต.อ.เชนณรงค์ เหยือกเงิน ผกก.สภ.ขลุง จ.จันทบุรี พ.ต.ท.สุทธิพงศ์ สมทวีศิลป์ รอง ผกก.สส. ร.ต.อ.วัลลภ พูลผล รองสารวัตร (สอบสวน) เข้าตรวจสอบที่หน้าบ้านไม่มี เลขที่ ริมถนนสายตรอกนอง-วัดเวฬุ หมู่ 5 ต.ตรอกนอง อ.ขลุง จ.จันทบุรี ของนาย ทองอินทร์ โชติวรรณ อายุ 67 ปี

สถานที่เกิดเหตุสุนัขพันธุ์พิตบูลกับสุนัขพันธุ์ไทย รุมกัด นางพราหมณ์ โชติวรรณ อายุ 83 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 5 ต.ตรอกนอง อ.ขลุง จ.จันทบุรี จนได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ร.พ.ขลุง

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.10 น. ของวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่นางพราหมณ์กำลังเดินผ่านหน้าบ้านนายทองอินทร์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ขณะนั้นได้มีสุนัขพันธุ์พิตบูล ชื่อ “เจ้าเป๊ปซี่” ที่นอนอยู่หน้าบ้านที่ไม่มีรั้วกั้น ได้วิ่งออกมากัดหญิงชราจนล้มกลิ้ง ก่อนที่สุนัขพันธุ์ไทยอีกไม่ทราบจำนวนวิ่งเข้ามารุมกัดซ้ำจนนอนหมดสติแน่นิ่งจมกองเลือด

ตำรวจตรวจจุดเกิดเหตุ

ขณะนั้นชาวบ้านที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่พาตัวนางพราหมณ์ส่งร.พ.ขลุง กระทั่งเวลาประมาณ 18.38 น. เจ้าตัวจึงได้เสียชีวิตลงเนื่องจากเส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอถูกคมเขี้ยวของสุนัขกัดจนขาด ขณะที่บาดแผลมีขนาดใหญ่คล้ายลักษณะถูกกัดและกระชาก

จากการสอบสวนนายทองอินทร์ให้การ เจ้าหน้าที่ว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงใกล้ค่ำ ตนได้เตรียมคลุกข้าวให้สุนัขทั้งหมดที่เลี้ยงไว้ 4 ตัว โดยเป็นพิตบูล 1 ตัว อายุกว่า 2 ปี และพันธุ์ไทยอีก 3 ตัว โดย 1 ใน 3 ตัวเป็นสุนัขแม่ลูกอ่อน

ซึ่งก่อนคลุกข้าวได้ปล่อยสุนัขไว้ ช่วงที่รอให้ข้าวที่หุงเสร็จใหม่หายร้อน โดยไม่ได้ล่ามไว้ ส่วนตนออกไปทำธุระข้างนอก จนกระทั่งกลับมาบ้านทราบข่าวว่าสุนัขกัดนางพราหมณ์เสียชีวิตแล้ว

“ที่ผ่านมานางพราหมณ์เคยถูกสุนัขของผมกัดมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนั้นเพียงแค่บาดเจ็บ ผมก็ไม่ทราบถึงสาเหตุที่สุนัขชอบเห่าและกัดนางพราหมณ์ เหมือนกับไม่ชอบหน้ากัน จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ผมยอมรับผิดและจะขอรับผิดชอบทุกอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น และหลังจากนี้จะทำกรงขังและล่ามไว้ตลอดเวลา ไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก” นายทองอินทร์กล่าว

ขณะที่ นางพัฒนา แข็งขัน อายุ 37 ปี ลูกสาวของนางพราหมณ์ กล่าวว่า ปกติในแต่ละวันแม่มักจะเดินไปบ้านลูกที่อยู่ห่างจากบ้าน ของตัวเองประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วก็จะเดินกลับหากพบว่าลูกไม่อยู่บ้าน ซึ่งด้วยอายุ 83 ปีทำให้เป็นคนหลงๆ ลืมๆ หากนึกอะไรขึ้นได้ก็จะทำเลย

ถูกล่ามหลังเหตุสลด

โดยแต่ละครั้งจะต้องเดินผ่านหน้าบ้านของนายทองอินทร์ โดยก่อนหน้าแม่เคยถูกสุนัขของนายทองอินทร์กัดมาแล้ว แต่แค่ บาดเจ็บ มาครั้งนี้โดนหนักที่สุดถึงขั้นเสียชีวิต หลังจากรู้ว่าแม่ เสียชีวิต นายทองอินทร์ได้เข้ามาพูดคุยขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบทุกอย่างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พ.ต.อ.เชนณรงค์เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่านาย ทองอินทร์เลี้ยงสุนัขพันธุ์พิตบูล และพันธุ์ไทย ไว้นานแล้ว ซึ่งช่วงกลางวันจะล่ามไว้ทุกตัว ส่วนกลางคืนก็จะปล่อยนอนอยู่หน้าบ้านเพื่อกันขโมย ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านในละแวกนั้นทราบว่าสุนัขมักมีพฤติกรรมชอบวิ่งไล่กัดผู้คนที่เดินหรือขี่จักรยานยนต์ผ่านไปมา จนมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่ได้หนักหนา จนมาเกิดเหตุการณ์นี้ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้านจึงเกิดเหตุ สลดขึ้น

หลังเกิดเหตุตำรวจแจ้งดำเนินคดีกับนายทองอินทร์ ในความ ผิดฐาน “ปล่อยปละละเลย ประมาท ทำให้สัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไว้ไปทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ก่อนนำตัวไปสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เจ้าแป๊ปซี่ตัวก่อเหตุ

มีรายงานว่าในประเทศอังกฤษได้ลองออกกฎหมาย ที่จำกัดให้คนที่จะเลี้ยงพิตบูลเลี้ยงได้ต้องมีบ้านมีรั้วชัดเจน หรือห้ามปล่อยสุนัขออกนอกพื้นที่ เพื่อหวังจะลดสถิติการถูกสุนัขทำร้ายคน ซึ่งผลออกมาพบว่าจำนวนผู้คนที่ถูกสุนัขกัดยังคงที่เหมือนเดิม

ว่ากันว่าสุนัขจะมีนิสัยดุร้ายหรือก้าวร้าว อยู่ที่การศึกษาและความรับผิดชอบของเจ้าของสุนัขมากกว่าสิ่งอื่นใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน