วอนแก้โค้งอันตราย/นักฟิสิกส์ถามเรื่องกฎหมาย
คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย
นักฟิสิกส์ถามเรื่องกฎหมาย
เรียน บ.ก.
คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย – กรณีส.ส.รายหนึ่งถูกศาลพิพากษาประหารชีวิต ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจน แต่ทุกฝ่ายยังซื้อเวลาด้วยการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เรื่องนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเมื่อถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แล้วผู้เสียประโยชน์ไม่ยอมรับ ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งทุกครั้ง นอกจากนี้ความเห็นของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นที่สุด
ทั้งนี้เพราะรัฐธรรมนูญไม่สามารถวินิจฉัยได้ด้วยตนเองเมื่อเกิดปัญหา ต้องใช้ความเห็นส่วนใหญ่ของมนุษย์ซึ่งอาจจะมีอคติได้ ดังนั้นรัฐธรรมนูญทุกมาตราสมควรมีคำเฉลยเหมือนเฉลยข้อสอบ คำเฉลยที่ว่านี้ก็คือเจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ที่สมควรต้องมีเหมือนคำพิพากษาส่วนตัวของผู้พิพากษา เพราะเมื่อไม่มีคำเฉลยก็ไม่ทราบเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้ร่าง เพราะแม้แต่กรธ.ยังให้ความเห็นแตกต่างกันเมื่อมีปัญหา
คำเฉลยหรือคู่มือประกอบรัฐธรรมนูญ มีความสำคัญมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อบทบัญญัติคลุมเครือ การให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งผลการวินิจฉัยจะใช้เป็นกฎหมายซึ่งก็อาจจะขัดกับเจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ แบบไปไหนมา – สามวาสองศอก ผมเป็นนักฟิสิกส์ไม่ใช่นักกฎหมาย ดังนั้นความเห็นของผมในเรื่องนี้อาจจะผิดพลาด หรือไร้สาระ
สายบุญ
ตอบ สายบุญ
กรณีส.ส.รายหนึ่งถูกศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ กกต.ในฐานะผู้จัดการเลือกตั้งทั่วไปและเลือกตั้งซ่อม ไม่สามารถหาข้อยุติได้ ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน ทำให้มีการถกเถียงว่าส.ส.รายนี้สิ้นสภาพการเป็นส.ส.หรือไม่ ประกอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 ที่กำหนดลักษณะต้องห้ามในการใช้สิทธิ์สมัครส.ส.ไว้ว่า (6) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายศาล แต่ขณะที่มาตรา 101 ที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกสภาพส.ส.สิ้นสุดลงเมื่อ(13) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แม้จะมีการรอการลงโทษ เว้นแต่เป็นการรอการลงโทษในความผิด ลหุโทษ จึงมีการโต้แย้งว่าจะสิ้นสภาพส.ส.ก็ต่อเมื่อเป็นคำพิพากษาถึงที่สุดโดยศาลฎีกา กรณีนี้จึงทำให้เห็นจุดบกพร่อง-ช่องโหว่ของการร่างรัฐธรรมนูญได้อย่างยากที่จะปฏิเสธ
วอนแก้โค้งอันตราย
ถึง คอลัมน์บ.ก.ตอบจดหมาย
ในแต่ละเดือนบริเวณ โค้งเกาะยายฉิมก.ม.382+500 ถนนเพชรเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ จะมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เกิดอุบัติเหตุนับ 10 ครั้ง ส่งผลให้มีได้รับผู้บาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากสภาพผิวถนนค่อนข้างลื่น และหากมีฝนตกลงมายิ่งง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุ ที่ผ่านมา กรมทางหลวงดำเนินการแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ด้วยการขูดผิวถนนเพชรเกษมบริเวณทางแยกเข้า อ.บางสะพาน และที่ ถนนช่วงโค้งเขาโพธิ์ ซึ่งมีความลาดชัน ในเขต อ.บางสะพานน้อย ปรากฏว่า ช่วยลดอุบัติเหตุไปได้มาก หากกรมทางหลวงจะดำเนินการแก้ไขปัญหาเช่นเดียวกัน ด้วยการขูดผิวถนนให้มีความลึกประมาณ 3 มิลลิเมตร แล้วทาสี Anti-Skid ก่อนถึงทางโค้งเกาะยายฉิม เพื่อช่วยการยึดเกาะขณะขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งติดตั้งเครื่องหมายจราจรจำกัดความเร็วให้มากขึ้นก่อนถึงโค้งดังกล่าว เชื่อว่าจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุไปได้มาก ชาวบ้านต้องการไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ
นับถือ
พิมพร
ตอบ พิมพร
ฝากเรื่องนี้ไปยังกรมทางหลวงเพื่อพิจารณาและดำเนินการด้วย
อ่านข่าว
