ปัญหา การเมือง ปัญหา ภายใน อนาคตใหม่ วิกฤต หรือ โอกาส
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ปัญหา การเมือง ปัญหา ภายใน อนาคตใหม่ วิกฤต หรือ โอกาส – การที่พรรคอนาคตใหม่ทะยานเข้ามาอยู่ในสถานะพรรคการเมืองหมายเลข 3 ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ดำเนินไปด้วยโชคช่วยหรือด้วยความพยายาม
ที่ว่าโชคช่วยเพราะพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ
ผู้สมัครส.ส.พรรคไทยรักษาชาติจำนวนหนึ่งก็ประกาศเทคะแนนอันตนเคยมีหรือได้มาเรียกร้องให้ไปเลือกผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่แทน
พรรคอนาคตใหม่จึงได้จากนครปฐม ได้จากฉะเชิงเทรา ได้แม้กระทั่งในกทม.
การไหลของคะแนนจำนวนหนึ่งจากพรรคไทยรักษาชาติอันถือว่าเคยเป็นของพรรคเพื่อไทย จึงถือได้ว่าเป็นความโชคดีในลักษณะ “ส้มหล่น” ให้กับพรรคอนาคตใหม่
ความเชื่อเช่นนี้เป็นความจริงในระดับที่แน่นอนหนึ่ง แต่คำถามก็คือ หากตัวตนของพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้รับความสนใจ เชื่อมั่นและศรัทธาจากแต่ละพื้นที่
พรรคอนาคตใหม่คงไม่ได้มากถึงระดับ 6.3 ล้านคะแนนเสียง
จะเป็นรองก็แต่ 136 ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย จะเป็นรองก็แต่ 116 ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ เท่านั้น พรรคอนาคตใหม่อยู่ในจุดที่เหนือกว่า 3 พรรคการเมืองเก่า
นั่นก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา
6.3 ล้านคะแนนเสียง อันมาพร้อมกับ ส.ส.ที่น่าจะได้มากถึง 87 คน แต่ก็ถูก “อภินิหาร” ทางกฎหมายรั้งดึงให้หดหายไป 6 คนจึงเหลือเพียง 81
สภาวะ “ขาลง” อย่างที่ปฏิบัติการ IO พยายามโหมกระหน่ำสถานะของพรรคอนาคตใหม่ภายหลังพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐมจึงน่ากังขา
ทั้งๆ ที่พรรคอนาคตใหม่ได้ถึง 2.8 หมื่นคะแนน
บทสรุปเช่นนี้น่าจะมาจากอุบัติแห่งข่าวอื้อฉาวภายในพรรคอนาคตใหม่ประสานกับการสร้างกระแสว่าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบแน่ๆ มากกว่า
ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในวังวนแห่งปฏิบัติการ IO
ไม่ว่าจะเป็นการขยายความอย่างเกินจริงจากกรณี “พระราชกำหนด” ไม่ว่าจะเป็นการขยายรอยร้าวอย่างเจตนาจากกรณี “ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ” ประสานกับความเพลี่ยงพล้ำในนครปฐม
มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างเป็นจริงภายในพรรคอนาคตใหม่ที่มิอาจปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะจากกรณี “พระราชกำหนด” ไม่ว่าจะจากกรณี “ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ”
หรือแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวของอดีตผู้สมัครส.ส.
จากที่เคยมีข่าวเป็นจำนวนร้อย ลดลงมาเหลือ 50 และลดลงมาเหลือ 25 อันน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่ามาจากกระบวนการจัดตั้งอย่างไรโดยมือที่มองไม่เห็นจากที่ใด
ความผิดปกติเหล่านี้พรรคอนาคตใหม่สมควรสนใจอย่างเป็นพิเศษ