สดจากสนามข่าว
พงษ์สันต์ เตชะเสน เรื่อง/ภาพ
บ่ายวันที่ 11 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 จังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 สอบปากคำ นายจิรันตน์ ปันส่วน หรือ เหน่ง อายุ 24 ปี พ่อเลี้ยงโหดที่ก่อเหตุฆ่า ด.ช.รพีภัทร สาเล๊ะ ลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ หลังถูกตามจับตัวได้ที่บ้านญาติ ในพื้นที่เขตบางเขน กรุงเทพฯ
ย้อนกลับไปเมื่อเย็นวันที่ 6 พ.ค. นายจิรันตน์นำตัวด.ช.รพีภัทร ส่งโรงพยาบาลราชเวช ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี แจ้งว่าเด็กจมน้ำ โดยพบว่าเด็กเสียชีวิตก่อนมาถึงแล้ว แต่จากการตรวจสอบร่างกายเด็ก กลับพบบาดแผลรอยฟกช้ำตามร่างกาย บริเวณศีรษะขวาบวมปูด ส่วนที่หน้าท้องมีร่องรอยฟกซ้ำ และท้องมีอาการบวมอืด จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมา พ.ต.ท.ธีรเจต ต่อน้อย สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท. ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สส. ก่อนให้หน่วยกู้ภัยมูลนิธิศิษย์พระจี้กง อุบลราชธานี นำศพเด็กชายส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายจิรันตน์ขี่รถจักรยานยนต์นำตัวเด็กมาขอรับการรักษา ก่อนบอกกับแพทย์ว่าจะขี่รถไปรับนางธิดารัตน์ สมบูรณ์ อายุ 23 ปี ภรรยาซึ่งเป็นแม่ของเด็ก ที่ขายของอยู่ในตลาดนัดหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งมาที่โรงพยาบาล
ต่อมาญาติๆ ได้มาที่โรงพยาบาล พร้อมกับนายฮัมดัน สาเล๊ะ อายุ 25 ปี บิดาของเด็ก แต่เกิดมีปากเสียงกับนางธิดารัตน์ที่ให้สามีใหม่อยู่กับลูก และทำให้จมน้ำเสียชีวิต นายจิรันตน์จึงโทรศัพท์เรียกให้เพื่อนขับรถมารับตัวเองพร้อมกับนางธิดารัตน์ ออกไปจากโรงพยาบาล
ต่อมาวันที่ 7 พ.ค. นพ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญลักษณ์ นายแพทย์นิติเวช ร.พ.ศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งผลการชันสูตรพบว่า ด.ช.รพีภัทร มีอาการบาดเจ็บตับอ่อนแตก มีเลือดไหลในช่องท้อง ทำให้ท้องบวมโต และที่ศีรษะมีเลือดคั่งในเยื่อบุสมอง ซึ่งเกิดจากการกระแทกอย่างแรง
เมื่อผลออกมาว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม ตำรวจรีบติดตามตัวสองผัวเมีย แต่พบว่าทั้งคู่หลบหนีไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
ขณะที่ศพเด็กชายมีน.ส.รัชนี ทองอ่อน อายุ 32 ปี ป้าเด็ก มารับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเพียเพ้า หมู่ 4 ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ ก่อนประกอบพิธีฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 8 พ.ค. โดยมีเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องมาร่วมงานด้วยความเศร้าโศก ซึ่งญาติบางคนก็เล่าว่า เวลานายจิรันตน์ พ่อเลี้ยงมารับเด็กไปนอนที่หอพัก บางครั้งเด็กมีอาการหวาดผวา แต่ขัดขืนไม่ได้
พ.ต.ท.ปราโมทย์ หัวหน้าชุดสืบสวนนำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักนายจิรันตน์ ซึ่งพักอยู่กับนายสุวิชาญ อองดา อายุ 23 ปี ในซอยบ้านนาควาย หรือ สุขาสงเคราะห์ 9 ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
พบกับนายสุวิชาญซึ่งให้การว่า วันเกิดเหตุออกจากห้องพักไปทำงานตั้งแต่เวลา 09.00 น. จึงไม่รู้ไม่เห็นระหว่างเด็กถูกทำร้าย แต่ยอมรับได้ขับรถยนต์ไปรับนายจิรันตน์จาก โรงพยาบาลไปส่งที่สถานีขนส่งรถยนต์โดยสาร โดย ไม่ทราบว่านายจิรันตน์และนางธิดารัตน์แม่ของเด็กซื้อตั๋วรถไปที่จังหวัดไหน
แต่จากหลักฐานแวดล้อมพนักงานสอบสวนเชื่อว่า นายสุวิชาญมีส่วนรู้เห็นช่วงที่เด็กถูกทำร้ายด้วย เพราะช่วงเวลาที่เด็กเสียชีวิตใกล้เคียงกับเวลาที่นายสุวิชาญยังคงอยู่ในห้องพัก และมีส่วนสนับสนุนให้นายจิรันตน์หลบหนี จึงขอให้ศาลจังหวัดอุบล ราชธานี ออกหมายจับนายสุวิชาญ และนายจิรันตน์ ในข้อหา ?ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย?
โดยนายสุวิชาญให้การปฏิเสธ
วันที่ 9 พ.ค. นางธิดารัตน์ แม่เด็กเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี โดยให้การว่าตอนแรกเชื่อตามที่นายจิรันตน์บอกว่าลูกชายจมน้ำในห้องน้ำ ประกอบกับยังรู้สึกสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงตามนายจิรันตน์ไปที่ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร
ต่อมาทราบว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะถูกทำร้าย จึงคาดคั้นเอาความจริง แต่นายจิรันตน์ก็พูดเพียงว่าตนเป็นคนผิดเอง จึงแยกกันเมื่อวานนี้ โดยตนนั่งรถโดยสารมาที่ จ.อุบลราชธานี และไปนอนอยู่บ้านเพื่อน ก่อนประสานญาติ จะเข้าพบกับตำรวจ ส่วนนายจิรันตน์ ไม่ทราบเดินทางต่อไปที่ไหน
หลังการสอบสวนปากคำพนักงานสอบสวนนำหลักฐานไปยื่นขอศาลจังหวัดอุบลราชธานี ออกหมายจับตัวนางธิดารัตน์และนายธนภูมิ หรือเสือ ผลประเสริฐ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ของนายจิรันตน์ ในข้อหาร่วมกันช่วยผู้อื่นที่กระทำผิด เพื่อไม่ให้ต้องได้รับโทษฯ ก่อนควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีทันที
วันที่ 10 พ.ค. ชุดสืบสวนทราบว่านายจิรันตน์หลบหนีมาอยู่กับญาติในพื้นที่เขตบางเขน กรุงเทพฯ จึงติดตามมาจับกุมตัวไว้ได้
พ่อเลี้ยงโหดให้การรับสารภาพว่า ขณะนั้นอยู่กับเด็กเพียง 2 คน โดยนายสุวิชาญไม่ได้อยู่ด้วย ระหว่างนั้นเด็กฉี่ใส่ทำให้โมโห เพราะยังเมาค้างและง่วงนอน จึงใช้สันมือทุบไปที่หน้าเด็ก ก่อนใช้กำปั้นชกที่หน้าท้องอีกหลายครั้ง จนเด็กอุจจาระราดแน่นิ่งไป จึงอุ้มตัวเด็กเข้าไปล้างก้นในห้องน้ำ และพบว่าเด็กไม่หายใจแล้ว จึงพยายามปั๊มหัวใจ ก่อนใช้ผ้าขนหนูห่อนำส่งโรงพยาบาล
คดีนี้ตร.เอาจริง ดำเนินคดีหมด ทั้งพ่อเลี้ยงโหด แม่เด็กและเพื่อนอีก 2 คน ผิดถูกไปว่ากันในชั้นศาล
