พลิกปมฆ่า "น้องแอ๋ม" ใบสั่งแก๊งยาข้ามชาติ ล่า "เปรี้ยว"สวยหันศพ ซุกโอเกะพม่า-หนีเตลิด

แฟ้มคดี

เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคมอย่างมาก

สำหรับคดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม สาวคาราโอเกะ ก่อนนำศพไปฝังดินไว้ที่ป่าริมทาง ใน อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น

ตอนแรกเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปที่เรื่องชู้สาว แต่สุดท้ายเมื่อความจริงปรากฏก็ต้องตกตะลึง

เมื่อพบว่าคนร้ายตัวจริงก็คือเพื่อนสนิทผู้ตาย ที่เป็นหญิงสาวหน้าตาดี มีคนติดตามในโลกโซเชี่ยลมาก

โดยมีปมโกรธแค้นกันด้วยเรื่องส่วนตัว ก่อนวางแผนเรียกแก๊งเพื่อนสนิทมาร่วมลงมือ

แม้ตอนแรกจะอ้างว่าไม่ได้ต้องการให้ถึงแก่ความตาย แต่สุดท้ายก็พลั้งมือจนเลยเถิด

แทนที่จะตั้งสติยอมมอบตัว รับโทษทางกฎหมาย กลับตัดสินใจซ่อนเร้นทำลายศพเพื่ออำพรางคดี

สุดท้ายก็ไม่สามารถปกปิดความผิดได้

ต้องหลบหนีไปอยู่ต่างแดน ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ประสานงานตามล่า เพื่อมาดำเนินคดี

ล่าระทึก”เปรี้ยว”สวยหั่นศพ

จากเหตุสยองขวัญที่ชาวบ้านโนนสง่า ม.9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น พบศพหญิงถูกฆ่าหั่นฝังดิน เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ จนรู้ว่าผู้ตายคือ น.ส.วริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม สาวคาราโอเกะใน จ.ขอนแก่น

ซึ่งจากการสอบสวนประวัติ ก็ทราบว่าเป็นหญิงสาวหน้าตาดี คบหากับสาวหล่อหลายคน นอกจากนี้ยังแต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตน

จึงตั้งปมไว้ที่เรื่องชู้สาว แต่เมื่อสอบสวนก็ไม่พบพิรุธใดๆ

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามอีกเบาะแสหนึ่ง โดยจากวงจรปิดพบว่าเช้ามืดวันที่ 22 พ.ค. แอ๋ม ขึ้นรถซีอาร์วี ไป โดยรถคันดังกล่าวมารับ โดยวิ่งมาจากริมถนนหน้าเมือง ตัดถนนเหล่านาดี ห่างจากหอพักของแอ๋ม ประมาณ 100 เมตร

เมื่อรับแอ๋มขึ้นรถ ก็วิ่งออกไปทางถนนเหล่านาดี และออกไปยังถนนมิตรภาพ ตรวจสอบข้อมูลรถคันดังกล่าวเป็นรถเช่าของบริษัทแห่งหนึ่ง จึงประสานนำรถซีอาร์วี สีบรอนซ์ทอง มาตรวจสอบ เบื้องต้นพบเศษปูนซีเมนต์ที่ขอบด้านหลัง และเส้นผมจำนวนมาก รอยนิ้วมือที่เปิดประตูท้ายอีกจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้ยังพบเสื้อยืดสีแดงของผู้หญิง และเสื้อโปโลของผู้ชายยัดอยู่ในยางอะไหล่ มีคราบสีน้ำตาลคล้ายคราบเลือด

จึงเชื่อว่าเป็นรถที่แอ๋ม สาวโอเกะ ขึ้นรถก่อนจะเสียชีวิต

ตรวจสอบบริษัทเช่ารถ ระบุว่า มีชายหญิงคู่หนึ่งมาเช่ารถวันที่ 21-22 พ.ค. แต่ติดต่อขอเช่าต่อในวันที่ 22-23 พ.ค. จากนั้นก็นำรถมาส่งคืนในวันที่ 23 พ.ค. บริษัทก็นำรถคันดังกล่าวให้บริการลูกค้ารายอื่นต่อ

1.เปรี้ยว 2.เอิร์น 3.แจ้

เมื่อตรวจสอบข้อมูลแน่ชัด จึงยื่นศาลขออนุมัติหมายจับ 4 ผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ประกอบด้วย นายวิศิน หรือ นิว นามพรหม อายุ 22 ปี น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ พรหมคุณ อายุ 21 ปี น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย อายุ 22 ปี และ น.ส.กวินตา หรือ เอิร์น ราชสุดา อายุ 22 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นศพ

ปฏิบัติการไล่ล่าคนร้ายก็เกิดขึ้น

ควานหาทั่วโอเกะท่าขี้เหล็ก

หลังศาลอนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนบก.สส.ภาค 4 สนธิกำลังตำรวจลาว บุกเข้าจับกุมนายวศิน ขณะกบดานที่เกสต์เฮาส์ แห่งหนึ่งในกรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว

พร้อมส่งตัวข้ามแดนมาดำเนินคดี

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสายก็บุกเข้าไปจับกุมน.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรหมคุณ อายุ 21 ปี แฟนสาวของนายวศิน ได้ที่บ้านพักใน จ.อุบลราชธานี

ส่วน 2 สาว คือเปรี้ยว และเอิร์น พบว่าออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. โดยใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวออกไปทางพรมแดนท่าขี้เหล็ก อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยไปกบดานอยู่ในคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ห่างชายแดน 6 กิโลเมตร

จึงประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพม่า ช่วยติดตามตัว

แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึงคาราโอเกะดังกล่าวเพียง 1 ชั่วโมง ก็มีคนไทยพาหนีไป

และไม่ใช่มีเพียงแต่ 2 สาว ยังมีอีกคนที่ร่วมขบวนการ ก็คือน.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/8 ม.16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งได้ขอศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มเติมแล้ว

ส่วนหลบหนีไปไหนนั้น มีรายงานอีกว่าน่าจะหลบหนีไปอยู่ที่เมืองโก ซึ่งอยู่ห่างจากท่าขี้เหล็กประมาณ 50 กิโลเมตร

พร้อมกับประสานให้ตำรวจพม่า ติดตามดำเนินคดีในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอีกคดีหนึ่ง เนื่องจากทั้ง 3 คนเดินทางโดยใช้บอร์เดอร์พาส หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราว

เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี

เปิดปมแค้น-แฉยาเสพติด

ส่วนสาเหตุการลงมือฆ่าครั้งนี้ วศิน หรือนิว รับสารภาพว่า เปรี้ยวกับแอ๋ม เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ต่อมาก็มีความขัดแย้งกัน โดยเปรี้ยว เชื่อว่าแอ๋ม เป็นสายของตำรวจชี้เป้าให้จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดหลายราย โดย 1 ในนั้น มีแฟนหนุ่มของเปรี้ยวด้วย

เมื่อแอ๋ม ย้ายมาทำงานที่ขอนแก่น เปรี้ยวจึงติดต่อเพื่อนที่สนิทอีก 3 คน คือ ตน เอิร์น และแจ้ ที่ยังไม่ถูกออกหมายจับ และหลบหนีออกทางด่านแม่สายไปพร้อมกัน ให้มาร่วมลงมือ

โดยเช่ารถซีอาร์วี มาให้ตนขับแล้วนัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนให้เอิร์น โทรศัพท์นัดแอ๋ม ให้ออกมาหา อ้างว่ามีลูกค้าที่สนใจอยากพบตัว

แต่เมื่อขึ้นรถไป เปรี้ยว และแจ้ที่นั่งประกบผู้ตายก็ใช้ถุงพลาสติกคลุมแล้วทำร้ายร่างกาย ซ้อมจนหมดสติ จนกระทั่งแอ๋มฟื้นขึ้นมา ก็กล่าวด้วยความอาฆาตว่า “ถ้าทำขนาดนี้ก็ฆ่ากูเสียให้ตาย ถ้ากูไม่ตาย มึงตาย”

ทำให้เปรี้ยวโกรธแค้นขึ้นอีกและบีบคอ แอ๋มจนสิ้นใจคารถ จากนั้นนิว ก็ขับรถวนไปในเมืองขอนแก่น เพื่อซื้ออุปกรณ์ซ่อนเร้นทำลายศพ แล้วแวะซื้อถุงดำ ที่ร้านสะดวกซื้อ และซื้อเลื่อย ถังน้ำ และปูน ที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างบ้านโนนทัน

จากนั้นมาเช่ารีสอร์ตที่บ้านหัวถนน ม.5 ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น โดยนิวเป็นคนอุ้มศพแอ๋มไปวางไว้บนเตียง แล้วเปรี้ยวเป็นคนนำร่างแอ๋มไปหั่นในห้องน้ำ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จึงช่วยกันนำศพมาฝังดินที่บ้านโนนสง่า อ.เขาสวนกวาง

แล้วทั้ง 4 ก็ขับรถเข้ากรุงเทพฯ นำโทรศัพท์ไอโฟน 6 ของแอ๋ม ไปให้เบนซ์ เพื่อเอาไปขายที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา ในราคา 3.5 พันบาท

จากนั้นก็แยกย้ายกัน

1.รีสอร์ตที่หั่นศพ 2.ตรวจซีอาร์วี 3.แก๊งเพื่อนสนิท

อย่างไรก็ตามสำหรับสาเหตุการลงมือสังหาร จากคำให้การของผู้ต้องหา มุ่งไปที่ความ โกรธแค้นส่วนตัวเรื่องแฉเครือข่ายยาเสพติดจนหนุ่มคนสนิทเปรี้ยวถูกจับกุม เนื่องจาก เป็นการลงมือที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากนัก

สุดท้ายก็ทิ้งร่องรอยให้สาวมาถึงตัวเองจนได้

ย้อนนาทีพบศพฆ่าหั่น

สำหรับฆาตกรรมสยองขวัญครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 พ.ค. เมื่อพ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราษฎร์ รองผกก. (สอบสวน) สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น รับแจ้งจากชาวบ้านโนนสง่า ม.9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ว่าพบศพคนถูกฆ่าหั่น ยัดถังดำ นำมาฝังดินที่ป่าสาธารณะข้างทาง ห่างจากหมู่บ้าน 3 กิโลเมตร

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างริมถนนเข้าไปประมาณ 3 เมตร พบร่องรอยการขุดดินฝัง 2 จุด ไม่ห่างกันมากนัก แต่ละหลุมมีสังกะสีปิดทับไว้ เปิดออกดูพบถังน้ำพลาสติกสีดำถูกฝังกลบอยู่ โดยไม่ได้ปิดฝา

ข้างในมีถุงขยะสีดำบรรจุศพคนตาย ลำตัวถูกหั่นแยกเป็น 2 ส่วนใส่ไว้ในถัง 2 ใบ ถังแรกใส่ชิ้นส่วนร่างกายท่อนบน ส่วนถังที่ 2 ใส่ชิ้นส่วนท่อนล่าง

เมื่อนำศพออกมาจากถังทั้งสอง ตรวจสอบพบเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 23-25 ปี สูงประมาณ 155 เซนติเมตร ผมสีดำ ใบหน้ามีรอยบวมช้ำ ที่ลำคอมีรอยถูกรัด มีบาดแผลถูกตัดบริเวณใต้ชายโครงจนขาด

มีเชือกจูงสุนัขมัดที่แขนขวา แขนซ้ายถูกตัดจนขาดเสมอศอก มีรอยสักภาษาอังกฤษว่า “poppy” ที่หน้าอกด้านซ้าย ด้านหลังพบรอยสักชื่อคน “Apichaya Yuntoon” ท่อนล่างใส่กางเกงในตัวเดียว ตามร่างกายมีคราบดินโคลนจำนวนมาก

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าหญิงสาวรายนี้ถูกฆ่าหั่นจากที่อื่นแล้วเอาศพใส่ถุงดำ ยัดถัง ขึ้นรถมาฝังไว้ในจุดดังกล่าว โดยคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 5 คน อาจจะมีคนที่มีความแค้นส่วนตัว จึงวางแผนฆ่า ทั้งนี้ดูจากสภาพบาดแผลพบว่าเป็นการหั่นศพที่ไม่ชำนาญ

ต่อมาเมื่อตรวจสอบจากรอยสัก “Apichaya Yuntoon” เจ้าหน้าที่จึงติดตามตัว น.ส.อภิชญา ยันทูล หรือ ป๊อปปี้ อายุ 22 ปี สาวทอมคนสนิท รวมทั้ง นายศักดิ์ชัย บาทเต็มดี อายุ 35 ปี สามีมาสอบสวน

แต่ก็ไม่พบพิรุธใดๆ จนกระทั่งพบปม ขัดแย้งกับกลุ่มเพื่อน

กลายเป็นฝีมือของแก๊งสวยหั่นศพ