ดูหมิ่นม็อบมุ้งมิ้ง – “ม็อบมุ้งมิ้ง” อะไรเอ่ย มากันมากมาย แพร่กระจายไปหลายจังหวัด คนมามากกว่า ร้อนแรงกว่า ท้าทายกว่า แฟลชม็อบหลังยุบพรรคอนาคตใหม่ด้วยซ้ำ เพราะออกนอกมหาวิทยาลัย “ลงถนน” โดยไม่สะทกสะท้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

อยากเรียก “ม็อบมุ้งมิ้ง” ก็เอาที่สบายใจ ดีเหมือนกัน สะท้อนความใสซื่อของเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งเซอร์ไพรส์ ไม่ได้มีแค่นักศึกษา เด็กมัธยมมาเต็มไปหมด ที่มหาสารคาม คนแห่แชร์นักเรียนหญิงไฮด์ปาร์กกันล้นหลาม โคตรทึ่ง เด็กรุ่นนี้โผล่มาจากไหนกัน พูดทั้งเรื่องเสรีภาพ รัฐสวัสดิการ

อ้อๆ คงถูกธนาธรล้างสมองมั้ง เก่งจัง ล้างสมองเด็กได้เป็นแสนเป็นล้าน เอาชนะระบบการศึกษา โรงเรียน ครู และลุงตู่ ที่ให้เด็กท่องอาขยานค่านิยม 12 ประการมา 6 ปี

เรียก “ม็อบมุ้งมิ้ง” คงใจชื้นกว่า #เยาวชนปลดแอก แฮชแท็กที่รีทวีตไป 10 กว่าล้านครั้ง มากที่สุดนับแต่มีทวิตเตอร์ในประเทศไทย “ม็อบมุ้งมิ้ง” ช่วยบรรเทาความหวาดกลัวพร้อมหมิ่นหยาม ทำนองว่าเด็กแค่เนียะ จะทำอะไรได้

ไม่กลัวแล้วทำไมต้องให้ทหารตำรวจไปคุกคาม เรียกคนจัดม็อบไปขู่ ครูจะไม่เซ็นใบจบให้ถ้าม็อบ อธิการบดีห้ามชุมนุม ทั้งที่เมื่อ 6 ปีก่อน ประกาศให้นักศึกษาอาจารย์ไปเป่านกหวีดโดยไม่ถือว่าขาดลา

น่าสงสาร “สลิ่ม” ที่ออกมาหมิ่นหยาม โพสต์ในโลกออนไลน์โดนทัวร์ลงกระหน่ำ ห้ามเด็กยุ่งการเมือง ผู้ใหญ่เลือกพรรคเชียร์ลุง แล้วก็มาผิดหวัง ด่านักการเมืองเสือหิวเสือโหยแย่งชิงตำแหน่ง

ระวังเน้อ เด็กสมัยนี้มัน “แหก” ได้เจ็บแสบ คนแก่ตามไม่ทัน IO โคตรขยันก็ต้านไม่อยู่ แถมยังสำแดงความเงิบ ส่งไลน์กันกระหน่ำ อ้างคำพูดเสกสรรค์ ประเสริฐกุล กระทั่งลูกต้องออกมายืนยันไม่ใช่

เออ ก็น่าสงสัย จะตอบโต้เด็กรุ่นใหม่ทำไมต้องอ้างคำพูดผู้นำ 14 ตุลาโค่นล้มเผด็จการ ผู้นำทางความคิดของพวกท่านไม่เหลือแล้วหรือไร

หน่วยงานความมั่นคงทำลิสต์ชื่อ พวกหนุนม็อบ 12 กลุ่ม หัวร่อตาย หน่วยข่าวเดินไปเจอใครมีประวัติก็จดชื่อส่งนาย ไม่เบิ่งตาดูว่า แกนนำนักเรียนนักศึกษาล้วนคนรุ่นใหม่ ผลัดเปลี่ยนกันมาชนิดที่ฝ่ายประชาธิปไตยรุ่นเก่ายังงง ใครหว่า “ฟอร์ด ทัตเทพ” นิสิตจุฬาฯ ไม่เคยเห็นหน้า เนติวิทย์? ก็มา แต่มาขายคุกกี้ ภาณุพงศ์ จาดนอก เพิ่งชูป้ายด่าประยุทธ์ที่ระยอง ไม่กี่วันกลายเป็นดาวปราศรัย หันไปดูมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็เปลี่ยนหน้ากันตั้งแต่แฟลชม็อบ

หมดยุค ไผ่ จ่านิว ลูกเกด แมน ปกรณ์ ฯลฯ “ประชาธิปไตยใหม่” เมื่อ 5 ปีก่อน แก่ไปแล้ว วันนี้เป็นเรื่องของเด็ก รุ่นพี่ได้แค่แนะนำให้กำลังใจแม้บางคนขึ้นเวที

พวกเขาไม่มีแกนนำหรอก ใครก็ขึ้นเป็นแกนนำได้ หรือแกนนำบางคน นักศึกษาด้วยกันก็ใช่ว่าจะยอมรับ จะมีการผลัดรุ่นใหม่เสมอ ฝ่ายรัฐจึงหนักใจ จับหรืออุ้มใครไปยิ่งเกิดแสน

นี่คล้ายม็อบประชาธิปไตยฮ่องกง ไม่ต้องมีโจชัว หว่อง, นาธาน หลอ ก็เคลื่อนได้ แล้วเป็นม็อบที่ไม่กลัว อาจเพราะความมุ้งมิ้งซื่อใส ผู้ใหญ่อาจแห่ติงอย่าล้ำเส้นเป็นอันตราย เด็กไม่สนใจ เพราะอะไร? เด็กอาจไร้ประสบการณ์ ไม่เคยผ่านความเจ็บปวด แต่พวกเขาเชื่อมั่นพลังของพวกเขา 10 กว่าล้านทวีต คิดไปทางเดียวกันหมด

พวกเขาอาจไร้เดียงสา อยู่แต่ในโลกไซเบอร์ บัญชีอวตาร ฯลฯ แต่ความจริงอีกด้านคือ คนรุ่นใหม่มีความคิดมีอารมณ์ร่วมไปด้วยกันหมด

“อันตราย” ที่ผู้ใหญ่ควรคิด คือคน Gen-Z และ Gen-Y อีกร่วมครึ่ง คิดตรงข้ามพวกคุณ ตั้งแต่คนอายุ 30 ลงไปถึง 15 และตัวเปี๊ยกๆ ที่จะโตมาเป็นอนาคตของชาติ ล้วนปฏิเสธระบอบอำนาจที่เห็นอยู่ โดยอายุเกินกว่านั้นก็ไม่ใช่พวกคุณเสียหมด ยังแบ่งเป็น 2 ขั้ว เพียงอาจไม่ร้อนแรงเท่าคนรุ่นใหม่

ไม่เห็นหรือ นางงาม ดารา ร้านยำ ยังกล้าสนับสนุนโดยไม่กลัวเสียลูกค้าเสียความนิยม

นี่คือคนรุ่นที่เติบโตหลังรัฐประหาร 49 ความขัดแย้งยาวนาน 14 ปีทำลายอนาคตพวกเขา รัฐอนุรักษนิยมสุดโต่งเข้ามายึดอำนาจ ประชาธิปไตย เสรีภาพ ถอยหลัง ในเชิงการปกครอง ความกลัวทำให้ไม่สามารถกลับไปเป็นประชาธิปไตย ในด้านความคิด วัฒนธรรม ก็พยายามเอาจารีตมาจำกัดความคิดเสรี กราบไหว้ครู เสื้อผ้าหน้าผม ไถหัว ทั้งที่โลกไปถึงไหนกันแล้ว

ระบอบอำนาจควรตระหนักเถอะว่า คนรุ่นใหม่ทั้งเจเนอเรชั่นกำลังระบายความอัดอั้น คนรุ่นเก่ากว่านั้นก็มีทั้งสองข้าง ขณะที่เศรษฐกิจกำลังดิ่งเหว คนตกงานเพิ่มทุกวัน

แม้แน่ละ ประชาชนไม่สามารถโค่นล้มรัฐที่มีทั้งปืนทั้งกฎหมาย แต่ก็จะเข้าสู่หลุมดำไปด้วยกันทั้งหมด ถ้าผู้มีอำนาจไม่หาหนทางยืดหยุ่นเพื่ออยู่ร่วมกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน