คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

วันอาทิตย์ที่ 2 ส.ค. 2563 น้อมรำลึกครบรอบ 37 ปี มรณกาล “หลวงปู่สงฆ์ จันทสโร” อดีตเจ้าอาวาสวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร

วัตถุมงคลได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง, เหรียญรูปเหมือน, เครื่องราง, ลูกอม, ยาฉุน ฯลฯ

เกิดเมื่อวันอังคารที่ 30 เม.ย. 2433 ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล ที่ ต.วิสัยเหนืออ.สวี จ.ชุมพร ครอบครัวมีอาชีพทำนา

ตั้งแต่วัยเด็กมีความใฝ่ใจศึกษาหาความรู้ต่างๆ จนอายุ 18 ปี บวชสามเณรที่วัดสวี ศึกษาด้านพระปริยัติธรรม และอักษรขอม

กระทั่งอายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดวิสัยเหนือ มีหลวงพ่อชื่น วัดแหลมปอ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “จันทสโร”

จำพรรษาที่วัดวิสัยเหนือระยะหนึ่งจึงเดินทางมาจำพรรษาอยู่ที่วัดควน ต.วิสัยเหนือ เพื่อศึกษาทางด้านกัมมัฏฐานและวิทยาคม จากนั้นเริ่มออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อฝึกวิปัสสนาและแสวงหาพระอาจารย์ผู้แก่กล้าศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติม

เมื่อมาถึงจังหวัดภูเก็ตได้พบพระอาจารย์รอด วัดโต๊ะแซ หรือตอแซ พระเกจิชื่อดังในยุคนั้น จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมต่างๆ อยู่ 2 พรรษา จากนั้นกราบลาพระอาจารย์ออกธุดงค์ต่อ

พ.ศ.2462 ในพื้นที่ ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร วันหนึ่งมีสองแม่ลูกออกหาของป่าละแวกวัดร้าง มีนกแก้วบินนำหน้าสองแม่ลูกไปจนถึงบริเวณที่หลวงปู่สงฆ์ปักกลด

สองแม่ลูกเข้าไปกราบหลวงปู่สงฆ์ด้วยความเลื่อมใส จึงนิมนต์ท่านกลับไปจำพรรษาที่วัดร้างใกล้หมู่บ้าน ซึ่งมีแต่ซากสิ่งก่อสร้างเก่าทรุดโทรม แม้แต่อุโบสถก็เหลือเพียงเสาสี่ต้น มีต้นไม้ต้นหญ้าขึ้นรกรุงรัง

หลังรับนิมนต์ ได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านมาถางต้นไม้ ช่วยบูรณะเสนาสนะต่างๆ ขึ้นมาใหม่ พัฒนาจนเป็นวัดที่มั่นคงแข็งแรงและเจริญรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้

วัดร้างแห่งนั้น ปัจจุบันคือ “วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย” อ.เมือง จ.ชุมพร นั่นเอง

เล่ากันว่า ครั้งหนึ่งเคยมีกวางตัวหนึ่งหลงเข้ามาในวัด ท่านก็ให้ผลไม้และอาหารกิน และผูกเศษจีวรสีเหลืองไว้ที่คอกวาง เจ้ากวางอยู่ที่วัดได้ปีหนึ่งก็กลับเข้าป่าไป บางทีก็กลับมาหาหลวงปู่ที่วัดและอยู่สองสามวันก็กลับเข้าป่าไปอีก โดยในช่วงที่เจ้ากวางอาศัยอยู่ในป่านั้นสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ทุกครั้ง

แม้กระทั่ง เต่าที่อยู่แถวป่าไผ่ใกล้วัดที่มีบ่อและสระน้ำ เป็นเต่าตัวโตๆ บางครั้งเดินมาหาหลวงปู่ที่กุฏิอยู่ที่เชิงบันไดหลายสิบตัว พอวันพระที่สำคัญๆ พวกเต่าจะพากันมา อยู่ที่หน้าหอสวดมนต์จนพระทำวัตรเสร็จ เมื่อได้พบหลวงปู่แล้วก็จะกลับเข้าไปอยู่ในป่าไผ่ดังเดิม

นอกจากนี้ ยังเป็นที่ร่ำลือกันว่า ท่านมีวาจาสิทธิ์ยิ่งนัก

วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองชุมพรมาตั้งแต่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาแต่รกร้างมาเนิ่นนาน จนหลวงปู่สงฆ์รับนิมนต์มาจำพรรษา จึงได้รับการบุกเบิกและพัฒนาจนเป็น “วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย” ที่เจริญรุ่งเรืองเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวชุมพร

ในอดีตเป็นวัดที่มีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเคยมาบวชเป็นเจ้าอาวาสอยู่ จึงขึ้นต้นชื่อวัดว่า ‘เจ้าฟ้า’ ส่วนศาลาลอยตั้งตามชื่อของหมู่บ้านนอกจากนี้ หลวงปู่มักพูดเสมอว่า “เจ้าวัดที่นี่ไม่ใช่เรา แต่เป็นปู่เจ้าฟ้า” ดังนั้น ทุกครั้งที่มีการบวชนาค จะต้องนำนาคไปฝากตัวกับปู่เจ้าฟ้าก่อน จนเป็นประเพณีสืบมาถึงปัจจุบัน

มรณภาพเมื่อวันที่ 2 ส.ค.2526 สิริอายุ 94 ปี 3 เดือน 2 วัน แต่สังขารไม่เน่าเปื่อย

ปัจจุบันบรรจุใส่โลงประดิษฐานบนศาลาธรรมสังเวช เพื่อให้สักการบูชา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน