พลันที่มีการเคลื่อนไหวจาก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในกรณีนำ “มวลชน” เคลื่อนไหวหน้าศาลกรณี “จำนำข้าว”

ก็รู้แล้วความวิตกที่ดำรงอยู่ไม่ธรรมดา

ความจริง ข้อมูลอันสตง.ได้มาและแจ้งไปยังกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม ก็มิได้เป็นข้อมูลใหม่
ตรงกันข้าม สอดรับกับที่ “สนช.” ออกมา “ปูด”

จำได้หรือไม่ว่า ในห้วงที่มีการปล่อยเอกสารจาก “คสช.” เรื่องการกำชับไปยัง “กกล.รส.” ของแต่ละกองทัพภาคทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศให้สอดส่องการเคลื่อนไหวของ “มวลชน” ก็มีการระบุค่าหัวรายละ 1,500 บาทต่อคน

เพียงแต่ที่มาจาก “สนช.” เป็นการเอ่ยขึ้นอย่างมีการระบุตัวเลข

ลองย้อนกลับไปศึกษารายละเอียดคำแถลงของ “สนช.” ก็เด่นชัดว่าเป็นการแถลงโดยอ้างอิงกับแหล่งข่าวและข้อมูลของฝ่าย “ความมั่นคง”

นั่นก็คือ เป็นข่าวอันได้มาจาก “ทหาร”

ขณะที่กล่าวสำหรับ “สตง.” มิใช่ได้มาเพราะว่าลงไปตรวจสอบรายละเอียดหากแต่เป็นข้อมูลซึ่งได้มาจาก คนที่รู้จักบางคนซึ่งร่วมขบวนมาที่บริเวณหน้าศาล

และระบุว่า “อปท.” บอกว่าจะไปงาน 1 แต่พามายังงานนี้

ที่สำคัญก็คือ งาน 1 อันเป็นเป้าหมายแรกนั้นใช้เงิน งบประมาณ “ดูงาน” อย่างถูกต้อง เท่ากับเป็นการแอบแฝงจากงาน 1 มายังงานนี้อย่างมีเงื่อนงำ

เท่ากับ “สนช.” เป็นฝ่ายร้อง แล้ว “สตง.” เป็นฝ่ายรำ

เมื่อนำเอากรณีของสนช. กรณีของสตง. ประสาน เข้ากับการเคลื่อนไหวของ กกล.รส. ประสานเข้ากับกระบวนการแห่ง “แผนกรกฎ 52”

ก็ตระหนักได้ในความวิตก ความห่วงใย

นั่นก็คือ กกล.รส. ภาค 3 ส่งเจ้าหน้าที่ไปพบเจ้าของรถตู้แล้วตามมาด้วยการคืนเงินมัดจำที่จังหวัดลำปาง
นั่นก็คือ กกล.รส. ภาค 1 ส่งคนไปพบกับชาวนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ทั้ง 2 จุด ยังดำรงจุดมุ่งหมายเหมือนเดิม นั่นก็คือ ทำทุกวิธีการเพื่อมิให้มี “มวลชน” หลั่งไหลกันมารวมตัว ณ บริเวณหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ยังเป็นความวิตกต่อ “25 สิงหาคม”

ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า สถานการณ์ในวันที่ 25 สิงหาคม จะเป็นอย่างไร จะมี “มวลชน” มาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เหมือนที่เคยปฏิบัติมาหรือไม่

วันที่ 25 สิงหาคม จึงเท่ากับ “วัดดวง”

วัดดวงว่ายังมีคนรัก คนห่วงใย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ วัดดวงว่า “แผนกรกฎ 52” จะประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน