เป็นแม่ไม่ง่าย – “อะไรเอ่ย คนเลือกไม่ได้ใช้ คนใช่ไม่ได้เลือก” ลูกถามเราตอนกลับมาจากโรงเรียนหลังโรงเรียนจัดงานปีใหม่ คริสต์มาส ก่อนมีประกาศปิดโรงเรียนเพื่อแก้ไขสถานการณ์โรคระบาดโควิดแค่สองวันพอดี

เราไม่ได้ตอบคำถามลูก เพราะตอนที่ลูกถามก็ยืนถือกล่องของขวัญปีใหม่ที่เพิ่งจับสลากมาจากโรงเรียนเลยรู้ว่าลูกหมายถึงอันนี้แหละ เพราะของขวัญจับสลาก เราไปเลือกแทบตายคาดเดาว่าคนรับจะชอบไหม กลับมานั่งห่อของขวัญอย่างสวย แต่ต้องมอบมันให้คนอื่นแล้วรับของสิ่งอื่นที่เราเองก็ไม่รู้ว่าข้างในเป็นอะไรมาแทน


สามปีที่ผ่านมา ลูกเราจะเลือกของที่ตัวเองชอบ เช่น ของเล่น ตุ๊กตา การ์ตูน เด็กที่ได้รับของขวัญของลูกเราไปคือกรี๊ดกร๊าดดีใจกันทุกคน แต่พ่อแม่ก็จะไม่ค่อยเท่าไหร่ คือเราเคยคุยกับแม่เด็กนักเรียนหลายคน ทั้งห้องเดียวกับลูก หรือพ่อแม่ห้องอื่น ชั้นอื่นส่วนใหญ่เขาจะเลือกของที่คิดว่า สามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่า

เราก็ไม่เคยไปแย้งอะไรเขา เพราะความคิดของเขา เขาจะเลือกอะไรยังไงก็ได้ แต่คือเท่าที่ดู เวลาลูกเราหรือเด็กคนอื่นๆเปิดมาแล้วเจอผ้าเช็ดตัว เครื่องเขียน หรือสมุด เด็กๆจะหงอยเบาๆ ไม่ค่อยแฮปปี้ อย่างลูกเราปีที่แล้วได้รับเป็นเซ็ทหนังสือเรียนพร้อมซีดีสอนภาษาอังกฤษ คือหงอย เหี่ยวทันที (หัวเราะ) เราก็เอ็นดู ก็บอกรู้ไหม มันมีประโยชน์มากนะ ในหนังสือมีเกมส์ มีกิจกรรมสนุกๆด้วย ลูกเราเลยพอจะร่าเริงขึ้นมาได้บ้าง


จริงๆเราดูแล้ว ชุดหนังสือเรียนที่เขาเอามาจับสลากนี้มูลค่าเยอะมากนะคะ โรงเรียนเขากำหนดว่าไม่ต่ำกว่า 200 บาท แต่ชุดนี้คือเกือบหกร้อย เราได้มาก็เกรงใจ และเข้าใจว่าผู้ปกครองที่เลือกอันนี้มาเป็นของขวัญคงมองแล้วว่ามีประโยชน์กับเด็กๆ เราเองเห็นแล้วยังคิดเลยว่าถ้าไม่ได้จับสลากได้ก็อยากซื้อไว้ให้ลูก เอาไว้สอนลูกอยู่ดี แต่การที่เด็กเห้นหนังสือเรียนแล้วไม่ได้ปลื้มนี่มันก็คงเป็นเรื่องปกติอีกเหมือนกัน

ทั้งสามปีลูกเราได้แนวนี้หมดเลย หนังสือคำศัพท์ หนังสือแบบเรียนภาษาอังกฤษแบบสนุกสนาน แล้วก็ชุดเครื่องเขียน ดินสอ ยางลบ สีเทียน ไม้บรรทัด กระเป๋าดินสอ ลูกเราก็แอบบ่นว่า อยากจับได้ของตัวเองมากกว่า เพราะอยากเล่นของเล่น อิจฉาเพื่อนที่ได้ของเล่น ส่วนเด็กคนที่จับได้ผ้าเช็ดตัวนี่ร้องไห้เลย เห็นแล้วก็สงสารเด็กเจ้าของของขวัญที่ห่อมา เห็นเพื่อนร้องไห้เขาก็เสียใจเหมือนกัน แต่เด็กเล็กเขาโกหกไม่เป็น เขาคิดหรือรู้สึกอย่างไรเขาก็แสดงออกมาอย่างนั้นแหละ

เป็นหน้าที่ของเราต้องสอนลูกด้วยว่า ได้ของขวัญอะไรมาก็ดีหมด เราต้องนึกถึงใจคนที่มอบให้ด้วย ไม่ควรทำให้เขาเสียน้ำใจ แต่ถ้าถามความเห็นเราคนเดียว เราก็ว่า อยากให้เด็กๆได้รับของที่เขาเปิดออกมาแล้วจะดีใจมากกว่า เพราะมันเป็นเทศกาลแห่งความสุข เป็นวันของเขา ของใช้หรือของขวัญที่มีประโยชน์ ที่จำเป็น เราว่าควรมอบให้คนที่เรารู้จักแน่นอนว่าเป็นใครมากกว่า เช่นรู้ว่าน้องเราคนนี้ชอบผ้าพันคอ เราก็ให้ผ้าพันคอ คนนี้ชอบของใช้เราก็หาของใช้ให้ คนนี้ชอบของกินเราก็ให้ของกิน เป็นการมอบให้แบบเจาะจง ไม่ใช่การจับสลาก


การจับสลากแลกของขวัญมันก็เป็นวิธีการเฉลิมฉลองที่น่ารักดีในสายตาเรา เวลาหัวใจเต้นแรง ลุ้นว่าเราจะได้รับของขวัญสวยๆกล่องไหน ใครๆก็ชอบทั้งนั้น มันเป็นเกมอย่างหนึ่ง คนที่ชอบจริงๆก็ดีไป แต่บางคนอาจจะเป็นเรื่องที่เขาลำบากใจ โดยเฉพาะครอบครัวของเด็กที่มีรายได้น้อย ตอนเราเด็กๆเราเคยเจอเพื่อนเขาของใช้ในบ้านที่ยังไม่ได้ใช้มาจับสลากแทนการขอร้องให้พ่อแม่พาไปซื้อของขวัญใหม่ เพราะเขารู้ว่าที่บ้านกำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่อยากเพิ่มภาระ

เราจำได้เลยตอนนั้น ว่าเป็นสบู่กับยาสีฟันกล่อง ที่บ้านเขาซื้อมาเป็นโหลแต่อันนี้ยังไม่ได้แกะ มูลค่ามันได้ แต่คนที่ได้รับไม่พอใจ คนอื่นก็หัวเราะเยาะ เราสงสารเพื่อนคนนั้นมากๆ ทั้งที่เป็นช่วงเวลาที่ควรจะสนุกด้วยกัน ได้แบ่งปันช่วงเวลาที่ดีกับเพื่อนๆ กลายเป็นช่วงเวลาที่เลวร้าย จนปีต่อๆมาเพื่อนคนนั้นก็เลิกมาร่วมกิจกรรมปีใหม่ของโรงเรียนไปเลย

ที่ลูกพูดว่า “คนเลือกไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้เลือก” นั่นเรื่องจริงเลย เพราะงั้นถ้าจะร่วมกิจกรรมแบบนี้จริงๆ นอกจากจะนึกถึง ใจเขา ใจเราแล้ว เรายังต้องเผื่อใจเตรียมใจไว้ด้วยว่า คนอื่นเขาคงไม่ได้มารู้ใจเราหรอกว่าชอบไม่ชอบอะไร อยากได้หรือไม่อยากได้อะไร ได้ร่วมกิจกรรมด้วยกัน หรือวินาทีที่ได้รับของขวัญปริศนาแล้วเราลุ้นไปด้วยตอนที่แกะนั่นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้ว อะไรนอกเหนือจากนั้นก็ต้องถือว่าเป็นกำไร ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อย่างงี้น่าจะดีกว่าค่ะ

โดย ขึ้นหนึ่งค่ำ

คุณแม่ท่านหนึ่ง กรุงเทพฯมหานคร

ภาพ Pixabay

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน