ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ในบรรยากาศที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า แสดงออกถึงความอาลัยและจงรักภักดีในพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับจากวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปี ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต
จากนี้ก็เข้าสู่ช่วงการน้อมส่งเสด็จสู่ฟ้าเสวยสวรรค์ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ วันที่ 26 ตุลาคม
สภาพบ้านเมืองเราในช่วงนี้ จึงมีแต่การหลอมรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวของคนไทย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น
พสกนิกรทุกคน คิดตรงกันเช่นนี้
ดังที่เปรียบกันว่า ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา คนไทยได้สร้างปรากฏการณ์ให้ทั่วโลกต้องตื่นตะลึง ในขบวนแถวเข้า สักการะพระบรมศพอันเหยียดยาว
เป็นปรากฏการณ์ที่จะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ได้เรียนรู้จดจำไปรุ่นลูกรุ่นหลาน!
แต่แน่นอนว่า ในท่ามกลางมวลประชาชนที่หลั่งไหลกันร่วมในพิธีประวัติศาสตร์ห้วงระยะนี้
ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำเป็นต้องมองให้รอบด้าน
ระมัดระวังป้องกันเหตุการณ์บางประการไม่ให้เกิดขึ้น
ให้ทุกอย่างเป็นไปโดยราบรื่นที่สุด
ดังที่เมื่อตอนต้นเดือน ทั้งรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและผบ.ทบ. ได้ส่งสัญญาณป้องปราม จับตากลุ่มที่อาจจะมาก่อเหตุปั่นป่วน
แต่หลังจากนั้น เมื่อฝ่ายความมั่นคงระดมมาตรการตรวจสอบอย่างเข้มข้น
การแถลงข่าวล่าสุดของฝ่ายความมั่นคงมั่นใจว่า ไม่มีกลุ่มไหนที่จะเคลื่อนไหวก่อการใดๆได้!
หมดจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีเรื่องต้องระมัดระวังด้านอื่นๆ อีก
เช่น โจรหลอกลวง ล้วงกระเป๋า ชิงทรัพย์
เหล่านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ทุ่มกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจนับแสนนายเข้าปฏิบัติการ
ทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และทั้งดูแลป้องกันภัยจากเหล่ามิจฉาชีพ
ผบ.ตร.ได้เน้นกำชับให้ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่เพิ่มความเข้มในการตรวจตรา ป้องกันเหตุลักพาตัวเด็ก ระมัดระวังมิจฉาชีพที่จะฉวยโอกาสก่อเหตุ!
รวมทั้งให้กองบัญชาการตำวจนครบาลจัดตั้งศูนย์บริการคนหายพลัดหลง พร้อมกับเต็นท์พยาบาล โรงพยาบาลตำรวจ ดูแลด้านสุขภาพ
ทั้งประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ปกครองที่พาบุตรหลานไปร่วมพิธี
ควรจัดทำบัตรประจำตัวหรือเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้กับตัวเด็ก
และหากเกิดการพลัดหลงให้แจ้งได้ที่กองอำนวยการร่วม บริเวณหน่วยบริการทางการแพทย์ หน้าประตูวิเศษไชยศรี
ทุกคนทุกฝ่ายพร้อมสำหรับการร่วมกันบันทึกหน้าประวัติศาสตร์แห่งความรักอาลัยในพระองค์ท่าน