สดจากสนามข่าว
ทนงศักดิ์ ศุภการ เรื่อง/ภาพ
ด้วยพุทธคุณแง่ความเชื่อทางไสยศาสตร์ว่า ทรงพลานุภาพและมีความศักดิ์สิทธิ์ด้าน “คลาดแคล้ว-คงกระพันชาตรี” ทำให้ “พระรอด” กรุวัดมหาวัน จ.ลำพูน หรือที่เรียกกันติดปากว่า “พระรอดลำพูน” ถูกจัดอยู่ในชุด “เบญจภาคี”
สุดยอดพระเครื่องที่เซียนพระให้ความนับถือ ใฝ่ฝัน และขวนขวายหามาขึ้นคอให้ได้สักครั้งในชีวิต
แต่ไม่ว่าจะเชื่อมั่นศรัทธาขนาดไหน หากผู้แขวนประพฤติชีวิตไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม คุณพระคุณเจ้าที่ไหนก็คงไม่ช่วยให้รอดตัวจากสิ่งผิดที่ได้กระทำลงไป
อย่างรายล่าสุดเมื่อเสี่ยหนุ่มเกรงกลัวความผิด จึงหวังให้พระเครื่องชื่อดังช่วยให้พ้นเคราะห์ แต่ก็ไม่เป็นผล
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่พ.ต.ท.ไพศาล ศรีสวัสดิ์ สวป.สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นำกำลังตำรวจตั้งด่านตรวจบนถนนสายหลังสวน-ละแม ต.บ่างมะพร้าว ตามนโยบายกวาดล้างอาชญากรรม ก็เกิดเหตุระทึกขึ้น
เมื่อมีรถเก๋งหรู ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น 320 ดี สีขาว ทะเบียน 2 กถ 366 กรุงเทพมหานคร แล่นตะบึงมาด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่จึงโบกให้จอดที่ด่าน เพื่อขอตรวจค้นตามปกติ
รถคันดังกล่าวก็ชะลอความเร็วลง คล้ายจะยอมจอดแต่โดยดี
รถเก๋งที่ใช้ก่อเหตุ / รถตำรวจที่ถูกชนเสียหาย
แต่จู่ๆ โชเฟอร์อาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ไม่ทันตั้งตัว เหยียบคันเร่งอย่างแรง เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม รถเก๋งพุ่งทะยานขับแหกด่านตรวจออกอย่างรวดเร็ว แต่รถบีเอ็มฯ คันดังกล่าวไปได้ไม่กี่กิโลฯ ก็ต้องจอดสนิท เมื่อพุ่งชนรถกระบะสายตรวจ ที่เจ้าหน้าที่จอดขวางถนนไว้จนพังเสียหาย ตำรวจที่อยู่ใกล้เคียงต้องกระโดดหลบเอาชีวิตรอดกันจ้าละหวั่น
จังหวะนั้นเองมีชาวบ้านขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา ชายคนขับรถรีบเปิดประตูวิ่งไปชิงรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีต่อทันที โดยทิ้งสาวสวยที่นั่งมาคู่กันไว้ในรถ ด้วยอาการยังตื่นตะลึงกับเหตุที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ
แต่ก็ไปได้ไม่ไกล เพราะตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ขี่ตามประกบ และกระโดดล็อกตัวไว้ได้ทันควัน
เมื่อค้นภายในรถก็พบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. มีทะเบียน บรรจุกระสุนปืนเต็มแม็กฯ ซุกซ่อนอยู่
แต่ที่น่าตะลึง คือยังพบกระสุนปืนขนาดต่างๆ อาทิ .380 จำนวน 40 นัด ขนาด 7.56 จำนวน 7 นัด ขนาด 9 ม.ม.จำนวน 19 นัด ขนาด .22 จำนวน 4 นัด รวมกระสุนทั้งสิ้น 69 นัด เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ 1 เครื่อง
สาวสวยให้การกับตำรวจว่า ทำงานเป็นพริตตี้ตามงานโชว์ใหญ่ระดับประเทศ ผู้ชายที่ก่อเหตุทราบชื่อเพียงว่า “เสี่ยอ้วน” รู้จักกับตนได้ประมาณ 2 ปี และชักชวนไปเที่ยวที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้ 3 วันแล้ว
ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าที่ผ่านมา ออกเดินทางจาก จ.สุราษฎร์ธานี ตระเวนทำบุญวัดต่างๆ โดยที่เสี่ยอ้วนมีท่าทีเป็นปกติดี
แต่เมื่อขับรถเข้าเขตหลังสวนก็เริ่มมีเหตุการณ์แปลกๆ
เสี่ยอ้วนเริ่มมีอาการคล้ายผีเข้า ตัวสั่นงันงก ยกมือไหว้ออกไปนอกหน้าต่าง และพร่ำบ่นไม่เป็นภาษาตลอดเวลา กระทั่งมาขับรถแหกด่านจนวุ่นวายดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากทะเบียนราษฎรจนทราบว่าเสี่ยอ้วนมีชื่อว่า นายสินชัย สอนสินลา อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 8 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
เป็นลูกคหบดีของเมืองชุมพร และเป็นเซียนพระมีแผงเช่าพระเครื่อง ที่ซุ้มประตูเมืองชุมพรเขาพาง ครอบครัวมีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี มีเงินพกพาครั้งละหลายแสนบาทอยู่เป็นประจำ
ครั้นจะสอบปากคำเสี่ยอ้วนก็ยังให้การวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง
เมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก็พบว่า เคยต้องคดีเสพยาเสพติดมาก่อนจึงควบคุมตัวไว้สงบสติอารมณ์ เพื่อรอสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับเป็นสำนวนประกอบการแจ้งดำเนินคดีหลายข้อหาหนัก
ประกอบด้วย มีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็น, ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงาน
จนท.ให้พริตตี้สาวเป็นพยานช่วงค้นรถ / พบปืนและกระสุนซุกไว้อื้อ
ระหว่างจับกุมเจ้าหน้าที่สังเกตว่า ในปากของเสี่ยอ้วนอมพระรอดลำพูนไว้ตลอดเวลา ทำเอานายตำรวจถึงกับเอ่ยปากว่า
“เห็นทีคราวนี้พระรอด แต่คนไม่รอดเสียแล้ว”