สดจากสนามข่าว
พฤตินัย มั่งสวัสดิ์

เรื่อง/ภาพ

เทคนิคต้มตุ๋นหลอกลวงชาวบ้านของเหล่าแก๊ง 18 มงกุฎ นับวันมีการพัฒนารูปแบบการล่อหลอก เปลี่ยนแปลงพลิกแพลงจนยากจะจับได้ กว่าจะรู้ตัวก็พากันสูญเงินทองไปคนละหลายสตางค์

อย่างรายล่าสุดที่เป็นข่าว เมื่อชาวบ้านแห่แจ้งจับบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ากลางเมืองอุดรธานี หลังส่งจดหมายแจ้งว่าเป็นผู้โชคดีให้ไปรับรางวัลด้วยตัวเอง เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าหรูหลายชิ้นมูลค่า 5 หมื่นถึงเป็นแสน บริการส่งสินค้าให้ถึงบ้าน

แต่เมื่อไปถึงก็ถูกเก็บภาษีไปกว่า 2 หมื่นบาทต่อราย แถมบางรายยังถูกไถเงินค่าเนื้อย่างเกาหลีเลี้ยงพนักงานอีก พอกลับถึงบ้านมีคนทักว่าอาจถูกหลอกเลยดูข้อมูลในโลกโซเชี่ยล

จนพบมีผู้ถูกหลอกลวงแบบเดียวกันอื้อซ่าเสียหายรวมกันไม่ต่ำกว่า 6 ล้านบาท เลยโร่แจ้งความ ตำรวจไปตรวจสอบก็ปิดบริษัทหนีไปตามระเบียบแล้ว

เรื่องราวเปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 เม.ย. เมื่อ นายนิเวส ราชโยธีอายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206 ม.8 ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย, นางสุประพิษ สีพันดอน อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 ม.2 ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย, นางอำไพ สารีวงษ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 ม.2 ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย และชาวบ้านใน จ.หนองคาย อีก 5 ราย ยกโขยงกันเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.บรรจง ชาสังข์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี

ให้ดำเนินคดีกับบริษัท ซีซีที อินเตอร์กรุ๊ฟแอนด์เซอร์วิส จำกัด เลขที่ 198/1 บ้านหนองหิน ถ.อุดรฯ-หนองบัวลำภู ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ในความผิดฐานหลอกลวง ฉ้อโกง

จากการสอบสวนนางสุประพิษให้การว่า เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาได้รับจดหมายจากบริษัทดังกล่าวระบุข้อความว่า เป็นผู้โชคดีจากการจับรายชื่อในใบรับประกันสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ที่ซื้อตามร้านค้าต่างๆ ตั้งแต่ปี 2548-2557

โดยในจดหมายให้พวกตนไปรับของสมนาคุณฟรี เนื่องจากบริษัทดังกล่าวฉลองช่วงเปิดสาขาใหม่ เช่น กระติกน้ำร้อน ทองคำหนัก 1 สลึง พัดลม ทีวีสี กระทะทอดกรอบ เตารีด ชุดชามแก้ว กล้องถ่ายรูป ชุดโฮมเธียเตอร์ ไมโครเวฟ เป็นต้น โดยไม่ต้องซื้อสินค้าก่อน แต่ต้องมาติดต่อรับจากร้านโดยตรง ภายใน วันที่ 27 เม.ย.

นางสุประพิษให้การอีกว่า เมื่อได้รับจดหมายดังกล่าวจึงตรวจสอบกับเพื่อนบ้าน พบว่ามีหลายหมู่บ้านได้รับจดหมายดังกล่าวเช่นเดียวกัน จึงชักชวนกันมาได้ 8 ครอบครัว พากันไปแจ้งความจำนงรับของรางวัลที่บริษัทดังกล่าว

พอไปถึงเจ้าหน้าที่ได้นำจดหมาย ไปสแกนบาร์โค้ดแล้วให้จับรางวัล ปรากฏว่าได้ของรางวัลมีชุดโฮมเธียเตอร์ เตาแก๊ส กระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าว เครื่องเล่นดีวีดี

สำหรับสินค้าที่ได้มานั้นหากเป็นชิ้นเล็กจะให้นำกลับเอง ส่วนชิ้นใหญ่เจ้าหน้าที่ของบริษัทอ้างว่าจะจัดส่งให้ถึงบ้าน โดยให้ชำระภาษีก่อนเป็นเงิน 23,000 บาท สินค้าที่จะส่งไปมีมูลค่าประมาณ 5 หมื่นถึง 1 แสนบาท

นางสุประพิษให้การอีกว่า ช่วงที่ติดต่อกับพนักงานในร้านที่มีประมาณสิบกว่าคนนั้นมีพนักงานคนหนึ่งมาแสดงความยินดีที่ได้รับรางวัลใหญ่ พร้อมเข้ามาขอเงินค่าอาหารให้กับพนักงานเป็นค่าเนื้อย่างเกาหลี 3 ชุด ชุดละ 1 พันบาท จึงต้องเสียเงินให้กับค่าเนื้อย่างเกาหลีเลี้ยงพนักงานอีกคนละ 3 พันบาท รวม 2.4 หมื่นบาท จากนั้นพากันกลับบ้านพักเพื่อรอของรางวัลที่จะส่งให้ถึงบ้าน

ขณะที่ทางด้านนายนิเวสกล่าวว่า เมื่อเดินทางกลับบ้านมีเพื่อนบ้านแจ้งว่าพวกตนถูกหลอก เพราะมีข่าวว่าบริษัทพวกนี้จะต้มตุ๋นชาวบ้านให้ไปรับรางวัลสุดท้ายหลอกให้ซื้อสินค้าแล้วปิดบริษัทหนีไป

เมื่อเปิดดูข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตพบข้อความกลุ่มชาวบ้านที่ถูกหลอกมาก่อนหน้านี้จำนวนมาก และลักษณะคล้ายกันมาก อีกทั้งเมื่อนำสินค้าของรางวัลที่ได้มาดู ก็พบว่าเป็นของ ราคาถูก ไม่มีคุณภาพ เทียบราคาแล้วยังห่างไกลจากเงิน 2 หมื่นบาทที่เสียไปมากโขอยู่

นอกจากนั้นยังทราบมาว่าบริษัทดังกล่าวเพิ่งเปิดมาได้ 2 เดือน ให้ชาวบ้านมารับสินค้าไปแล้ววันละกว่า 10 ราย รวมแล้วประมาณกว่า 200 ราย ได้เงินไปมากกว่า 6 ล้านบาท และสินค้าที่หลอกขายไม่มีคุณภาพ และราคาถูกกว่าเงินที่จ่ายไปหลายเท่าตัว จึงตัดสินใจพากันมาแจ้งความดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รับแจ้งความจากผู้เสียหายทั้งหมด ก่อนประสานร.ต.อ.บรรจง พาโคตร รอง สว.สส. นำกำลังไปตรวจสอบตามที่อยู่ของบริษัทดังกล่าว แต่พบว่าปิดบริษัทหลบหนีไปแล้ว เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อเร่งติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป

อีกหนึ่งวิธีการหลอกลวงเอาสินค้าไม่มีคุณภาพมาหลอกปั่นราคาขายให้ชาวบ้านที่ไม่รู้ในราคาแพงเกินจริง หากไม่อยากตกเป็นเหยื่อ พึงตั้งสติไว้เสมอ อย่าให้คำว่าของถูกของฟรี ปิดหูปิดตาจนตกเป็นเหยื่อแก๊งเหล่านี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน