คงไม่แค่คำว่า"จ้า"

ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง สำหรับกรณีที่ศาลทหารอนุมัติหมายจับน.ส.พัฒน์นรี หรือ หนึ่งนุช ชาญกิจ แม่ของ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” นักศึกษามธ. นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย ในความผิด มาตรา 112
โดยทนายความระบุเหตุผลของพนักงานสอบสวน เนื่องจากตรวจสอบพบการแช็ตเฟซบุ๊ก ระหว่างน.ส.พัฒน์นรี กับนายบุรินทร์ อินติน นักกิจกรรมกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้
โดยระหว่างที่แช็ตหากัน นายบุรินทร์ พิมพ์ข้อความที่มีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างชัดเจน
ก่อนที่จะพิมพ์ต่อว่า “อย่าว่าผมนะที่ คุยแบบนี้” ขณะที่น.ส.พัฒน์นรี ตอบกลับว่า “จ้า”
จึงเป็นเหตุที่เห็นได้ว่าผู้ต้องหาเห็นด้วยกับการโพสต์ข้อความของนายบุรินทร์ จึงมีความผิดในฐานะตัวการร่วม
และหากไม่เห็นด้วยก็ต้องแสดงออกด้วยการห้ามปราม ตำหนิ หรือต่อว่า !??
ส่งผลให้เจ้าหน้าที่คุมตัวน.ส.พัฒน์นรี ไปคุมขังที่สน.ทุ่งสองห้อง และต่อมาศาลทหารก็อนุมัติให้ประกันตัว โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 แสนบาท
ทำให้เกิดข้อสงสัยกันทั้งประเทศว่า คำว่า “จ้า” คำเดียว ถูกตีความไปในเรื่องการสนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย
และต้องติดคุกติดตะรางโดยทันทีได้อย่างไร
ยังดีที่พนักงานสอบสวนบก.ปอท. ออกมาตอบข้อสงสัยของสังคมอย่างรวดเร็ว
ยืนยันว่าไม่มีการกลั่นแกล้งใครอย่างแน่นอน ทุกอย่างทำไปตามพยานหลักฐาน
และไม่ได้มีเพียงหลักฐาน ข้อความแช็ตคำว่า “จ้า” เท่านั้น ยังมีหลักฐานเพิ่มอีก เพียงแต่ยังบอกไม่ได้เพราะเป็นความลับชั้นสืบสวนสอบสวน
แม้จะสงสัย แต่ก็ต้องรับฟังไว้ และหวังว่าคงเป็นเช่นนั้นจริง
เพราะหากตำรวจเอาคนขังคุกเพราะคำว่า “จ้า” คำเดียว ย่อมเป็นเรื่องเลวร้ายในสังคมอย่างมาก
ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ย่อมไม่พึงกระทำอย่างแน่นอน
อีกทั้งหากเป็นเช่นนั้น ก็สุ่มเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี แม้ตอนนี้ไม่มีใครฟ้อง แต่ในอนาคตย่อมไม่มีใครทราบได้
หากผิดจริงชีวิตราชการก็ปิดฉากหมดอนาคต
กระทบต่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูลส่งผลไปชั่วลูกชั่วหลาน
ตำรวจดีๆ ไม่มีใครยอมเสี่ยงถึงขั้นนี้แน่นอน