ทะลุคนทะลวงข่าว
กําชับทันทีจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ตำรวจฝ่ายปฏิบัติการพื้นที่ทุกนายแต่งกายและตัดผมสั้นให้เรียบร้อย โดยเฉพาะ ขณะแต่งเครื่องแบบและสวมหมวก ทุกชนิด ต้องมีทรงผมที่แสดงออกถึงความเป็นผู้มีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด และโดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยทุกระดับ จะต้องปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่าง
สำคัญ ให้นำไปเพิ่มเติมเป็นหัวข้อประเมินผลการปฏิบัติราชการประจำปี รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติ และวินัยข้าราชการตำรวจอีกส่วนหนึ่งด้วย
เข้มงวดตามที่ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรงผบช.สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ออกวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติด่วนที่สุด ถึงผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติทุกหน่วยทั่วประเทศ ประกอบด้วย บช.น. บช.ภ.1-9 บช.ก. และ ตชด.
ใจความระบุว่า อ้างถึงหนังสือศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำชับการแต่งเครื่องแบบข้าราชการตำรวจ กรณีให้ข้าราชการตำรวจทุกนายติดป้ายชื่อบริเวณหน้าอกด้านขวาเหนือกระเป๋าทุกครั้งที่แต่งเครื่องแบบทุกชนิด และเพื่อให้การแต่งกายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สอดคล้องระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแต่งกายและทรงผมของข้าราชการ
ผบ.ตร.จึงแจ้งกำชับดังกล่าว ทั้งนี้ ให้จเรตำรวจกวดขันการปฏิบัติตาม คำสั่ง หากพบข้อบกพร่องให้พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ขยายรายละเอียดจาก พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.รองผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในตร.ทุกคน สามารถเป็นต้นแบบด้านทรงผมและการแต่งกายได้
ทั้งนี้ ข้าราชการตำรวจต้องเป็นผู้มีระเบียบวินัยและความน่าเชื่อถือ สร้างความประทับใจให้กับประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่เรื่องการแต่งกาย
คำสั่งดังกล่าวถือเป็นเรื่องดี มั่นใจว่าไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เช่น การจับคนร้าย
หากผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจะถูกลงโทษทางวินัย จากเบาไปหาหนัก คือว่ากล่าวตักเตือน ลงทัณฑ์ รวมทั้งผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดจะต้องมีส่วนรับผิดชอบกับการฝ่าฝืนไม่ตัดผมสั้น และแต่งกาย ให้ถูกต้องของผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย
อย่างไรก็ตาม คำสั่งดังกล่าวอนุโลมให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่ลงพื้นที่หาข่าว สันติบาล ตำรวจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสายสืบ โรงพัก เนื่องจากเป็นหน่วยที่ต้อง แต่งกายให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความปลอดภัยของเจ้าตัว
“นอกจากนี้ยังกำชับให้ข้าราชการตำรวจที่มีรูปร่างอ้วนลงพุงไปลดน้ำหนัก เพื่อความคล่องแคล่วในการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งเสริมบุคลิกภาพภาพลักษณ์ที่ดีของตร. ตลอดจนต้องตัดเล็บให้สะอาดเรียบร้อย ห้ามไว้หนวดเคราเพื่อความน่าเชื่อถือด้วย”
จักรทิพย์ / วิระชัย / ไกรบุญ
ผบ.ตร.วัย 58 ปี
เกิด 19 ต.ค. 2502 ศิษย์วชิราวุธวิทยาลัย โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 (นรต.36) ปริญญาโทสาขาบริหาร รัฐกิจจากสหรัฐอเมริกา ศึกษาเพิ่มเติมหลักสูตรการสอบสวนและหลักสูตรเอฟบีไอ สหรัฐอเมริกา
ราชการเริ่มจากเป็นนายเวรผู้บังคับ การประจำกรมตำรวจ สำนักงานกำลังพล ก่อนเป็นสารวัตรแผนกสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กองกำกับการสายตรวจ
ย้ายเข้ากองปราบปรามในตำแหน่งรองผู้กำกับ จากนั้นเป็นนายเวรอธิบดีกรมตำรวจ พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา
เป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม, รองผู้บังคับการกองตำรวจน้ำ, รองผู้บังคับการกองปราบปราม, ผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานแห่งชาติ
ต่อมาเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจ นครบาล และเป็นผู้บัญชาการตำรวจ นครบาล
ไปเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แล้วกลับมารักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
ก.ย.2558 มติเอกฉันท์ให้เป็น ผบ.ตร.
โฆษก ตร. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ชื่อเดิม สุวิระ เกิดวันที่ 19 ต.ค. 2504
นรต.37 ปริญญาโทรัฐประศาสน ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาเอกสาขาการบริหารการพัฒนา คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
เส้นทางตำรวจผ่านตำแหน่งสำคัญๆ เป็นผบก.ภ.จว.ตราด และผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ
เป็นผบก.ทางหลวง แล้วเป็นผบช.ศึกษา
เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. และที่ปรึกษา (สบ 10)
ปัจจุบันรับราชการแทนรองผบ.ตร.
ผบช.สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ
พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง นรต.36 ร่วมรุ่นผบ.ตร.
ศึกษาดูงานด้านการฝึกอบรมวิชาการตำรวจ และด้านการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่สหรัฐอเมริกา
อดีตผบก.ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.)
ผบก.กองแผนงานอาชญากรรม เป็นรอง ผบช.สยศ.ตร. เมื่อก.ย. 2557
เลขานุการคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. คณะที่ 1
กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.)
ภารกิจล่าสุด วิทยุในราชการสำนัก งานตำรวจแห่งชาติด่วนที่สุด ส่งคำสั่ง ผบ.ตร. ย้ำตำรวจยุค “บิ๊กแป๊ะ” เสื้อผ้าหน้าผมต้องเป๊ะ ลดพุง ตัดผม ตัดเล็บ และห้ามหนวดเคราเฟิ้ม
เพื่อแสดงออกถึงความเป็นผู้มีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด
