ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
นี่เข้ากลางเดือนธันวาคมแล้ว ใกล้จะถึงเทศกาลเฉลิมฉลองทั้งคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แต่บรรยากาศในปีนี้ แตกต่างจากปีอื่นๆ อย่างมากมาย ไม่มีความคึกคัก ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าเรากำลังจะเข้าสู่ช่วงแห่งการสนุกสนานรื่นเริงครั้งใหญ่เลยแต่อย่างใด
ทั้งๆ ที่อีกเพียงแค่ 2 สัปดาห์เศษ กลับซึมเซาอย่างมาก
บริษัทห้างร้านต่างๆ จะเป็นช่วงที่เริ่มออกแวะเวียนพบปะเพื่อนสนิทมิตรสหาย นำกระเช้าของขวัญปีใหม่ไปมอบให้เพื่ออวยพรกันตามธรรมเนียมปฏิบัติ ปรากฏว่าไม่มีอะไรให้เห็นอย่างนั้น
เพราะทุกคน ทุกกิจการ ทุกบริษัท ล้วนอยู่ในท่ามกลางความยากลำบาก
ใช้จ่ายต้องระมัดระวัง ต้องกระเหม็ดกระแหม่
ดังนั้น ปีนี้ของขวัญอาจจะน้อย กระเช้าอวยพรอาจจะกะล่อยกะหลิบ
ก็อย่าได้คิดมากหรือลำบากใจเลย เพราะทุกกิจการห้างร้านล้วนรู้กันดีว่า ทุกองค์กรต้องรัดเข็มขัด!
รัดจนหน้าเขียว
ไม่มีตำหนิติเตียนใคร เข้าใจกันได้
เพราะเราอยู่ในห้วงที่ประเทศชาติยากลำบากด้านเศรษฐกิจ
แล้วจะโทษใครได้หรือ โทษรัฐบาลทหารที่เข้ามาปกครองแล้วถูกทั่วโลกแอนตี้ จนการค้าขายสะดุดไปหมด เศรษฐกิจโดยรวมจึงย่ำแย่ได้หรือไม่
โทษการบริหารประเทศที่ติดขัดไปหมด จนทำให้การลงทุนขนาดใหญ่ในบ้านเราไม่มี ผลก็คือ รายได้สู่ประชาชนวงกว้างไม่เกิด รัฐบาลเองก็เก็บภาษีได้น้อยลง เงินคงคลังก็ลดฮวบ
หรือจะโทษกลุ่มตัวการปลุกปั่นประชาชน ให้หลงงมงาย จนไปร่วมกันล้มระบบประชาธิปไตย!
ทั้งที่ประเทศชาติเรามีบทเรียนมาหลายครั้งหลายหน ว่าล้มประชาธิปไตยเมื่อไร แปลว่าเป็นบ้านเมืองที่ล้าหลัง ไม่สนใจการมีส่วนร่วมของประชาชนส่วนใหญ่ เอาอำนาจไปให้คนหยิบมือเดียวถือเอาไว้ อย่างนี้แล้ว ย่อมไม่มีใครอยากคบค้าด้วย ส่งผลให้เศรษฐกิจติดขัดทันที
แต่ก็ยังทำ ยังเดินซ้ำย่ำรอยเดิม
จะพบว่า 3 ปีเศษมานี้ หลังเป่านกหวีดกันได้ชัยชนะ บนความย่อยยับและล้าหลังของบ้านเมือง ส่งผลให้ธุรกิจการค้าต้องหดตัวลงไป เลิกกิจการไปไม่น้อย ผู้คนตกงานกันก็มาก
ส่งผลให้ปีใหม่นี้ก็เลยไม่มีบรรยากาศแบบเดิมๆ มาให้เห็น กลับเต็มไปด้วยความซึมเซา เพราะเหตุนี้นี่ไง
ที่เห็นอีกประการ ในเทศกาลปีนี้ องค์กร ?สสส? รณรงค์อย่างมาก ให้เหล้าเท่ากับแช่ง
เป็นการสร้างกระแสในเชิงความดีมีศีลธรรม ซึ่งก็ช่วยได้ในหลายด้าน
มีส่วนในการลดอุบัติเหตุด้วย
เชื่อว่าต้องได้ผลแน่นอน ของขวัญแบบนี้คงหดหายไป
เพราะผู้คนคงไม่มีเงินทองไปซื้อเหล้าเป็นของขวัญมอบให้ใครได้!?!