ทะลุคนทะลวงข่าว
ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว หลังการสืบข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และคนไร้ที่พึ่งของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ชี้ 2 ข้าราชการมีมูลความผิดจริง
หนึ่งคือปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หนึ่งคือรองปลัด
ระบุจาก พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม.ว่าการสืบข้อเท็จจริง นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดพม. และ นายณรงค์ คงคำรองปลัดพม. ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตเงินสงเคราะห์ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งมี พ.ต.ท.เธียรรัตน์ วิเชียรสรรค์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้ส่งสรุปผลการสืบสวนให้ตนพิจารณาแล้ว
ระบุผลรายงานเบื้องต้นพบว่าข้าราชการทั้ง 2 มีมูลความผิดจริง
โดยได้ลงนามท้ายผลสอบให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง โดยมอบหมายให้นางไพรวรรณ พลวัน รักษาการปลัดพม. ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงทันที
รัฐมนตรีว่าการพม.เปิดเผยด้วย ได้โทรศัพท์ถึง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ประสานทาบทามข้าราชการระดับ 11 กระทรวงศึกษาธิการมาทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงชุดนี้ นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการร่วมจาก กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักนายกรัฐมนตรี และพม. รวมประมาณ 5-6 คน
จะเร่งรัดคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนสงกรานต์
“บิ๊กโย่ง” ตท.15 จปร. 26 ร่วมรุ่น พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผบ.ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตรองผบ.ตร.
รัฐศาสตรมหาบัณฑิตสาขาการบริหารรัฐกิจและกิจการสาธารณะ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ชีวิตราชการเริ่มที่เหล่าทหารปืนใหญ่ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 103 นครราชสีมา ย้ายเข้าสำนักงานปลัดบัญชีกองทัพบก เป็นปลัดบัญชีทหารบก
หลังรัฐประหาร 2557 เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
ทั้งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ร่วมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ
ปี 2558 เป็น รมว.พลังงาน และปี 2560 เป็นรมว.พม.
กรณีทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) พม. เป็นข่าวฉาวโฉ่แดงโร่ออกมา
ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 52/2561 ให้ทั้ง 2 บิ๊กข้าราชการเข้าปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางสอบข้อเท็จจริง
ก่อนจะถึงการแจ้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ของน้องนักศึกษาใจสุจริต จนนำมาสู่การตรวจสอบทุจริตใหญ่โตอยู่ในขณะนี้
พม.เริ่มตรวจสอบลับๆ ตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2560 เมื่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือด่วนลับมากถึงพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. ขณะนั้น ขอให้ตรวจสอบภายในข้อเท็จจริงการเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนประเภทเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ปีงบประมาณ 2560
พล.ต.อ.อดุลย์ มอบสำนักงานปลัด พม.ตรวจสอบ ทั้งการเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ระดับพื้นที่ และผู้บริหารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ(พส.) ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักในการจ่ายเงินช่วยเหลือคนกลุ่มนี้
พส.ที่ขณะนั้นมีนายพุฒิพัฒน์ เป็นอธิบดี และนายณรงค์ เป็นรองอธิบดี
โดยนายพุฒิพัฒน์อยู่ในตำแหน่งอธิบดี พส.เป็นเวลา 3 ปี ส่วนนายณรงค์เข้ารับตำแหน่งรองอธิบดี พส.ในปี 2558-2559
คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วได้ข้อสรุปว่า พบบางแห่งไม่ดำเนินการตามระเบียบ อาทิ ให้เงินสงเคราะห์โดยที่ไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีการเซ็นชื่อ จึงเห็นสมควรมอบให้ พส.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยส่งเป็นหนังสือลับมากให้ พส.ดำเนินการต่อเมื่อ 30 ต.ค. 2560
อย่างไรก็ตาม การสอบสวนดังกล่าวยังไปไม่ถึงขั้นชี้มูลว่า 2 บิ๊กข้าราชการ ผิดหรือถูก
ต่อมา พส.ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง สรุปว่ามีมูลตามที่กล่าวหาจริง โดยเรื่องทั้งหมด ดำเนินการกันภายในกระทรวง พม.
กระทั่งเรื่องมาดังเปรี้ยงเมื่อต้นเดือนก.พ. ที่ผ่านมา เมื่อมีนักศึกษาฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดขอนแก่น ออกมาแฉว่า ถูกสั่งให้ปลอมลายเซ็นผู้ขอรับความช่วยเหลือกว่า 2,000 คน เป็นเงิน 6-9 ล้านบาท
ตามด้วยการขุดคุ้ยของชาวโซเชี่ยล ก่อนแฉจะๆ พฤติกรรมไม่ชอบมาพากลด้วย
พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ เกิด 11 ก.ย. 2501 เปลี่ยนชื่อมาแล้ว 4 ครั้ง จากชื่อเดิม ศิริพงษ์ โชคสถิตย์ เปลี่ยนเป็น พุฒิพัฒน์ โชคสถิตย์ และพุฒิพัชร์ โชคสถิตย์ ลงเอยที่ชื่อปัจจุบัน
จบปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโทสาขาและสถาบันเดียวกัน
เส้นทางราชการเริ่มที่กระทรวงแรงงาน เคยเป็นเลขานุการอธิบดีกรมประชาสงเคราะห์ที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน สำนักงานแรงงานในประเทศกรีซ และอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน สำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่น
โอนย้ายข้ามมากระทรวงพม. เป็นผู้ปกครองสถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งชายธัญบุรี ปทุมธานี, ผู้ปกครองสถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด นนทบุรี
ผอ.ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 9 ชัยนาท, ผอ.ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 62 สระบุรี, ผอ.สำนักบริหารกลาง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และผอ.สำนักบริหารงานกลาง สำนักงานพม.
เป็นรองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และผู้ตรวจราชการ
รัฐบาล คสช. ได้เป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมขนาดใหญ่ที่สุดของพม.
ปี 2560 เป็นปลัดพม. และล่าสุด ถูกย้ายเข้ากรุสำนักนายกฯ
ถูกชี้มีมูลความผิดจริง
ณรงค์ คงคำ จบนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยปทุมธานี
เคยเป็นผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองเลี้ยงไหม จ.สุรินทร์ และผอ.ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 67 สุรินทร์, ผู้ปกครองนิคมสร้าง ตนเองห้วยหลวง อุดรธานี และผอ.ศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 71 อุดรธานี
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี
เป็นรองอธิบดี พส. ยุคพุฒิพัฒน์เป็นอธิบดี
เป็นผู้ตรวจราชการ แล้วเป็นรองปลัด พม.
หลังการสืบข้อเท็จจริงพบมูลความผิดทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่ง
ก็ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว
