วิเคราะห์การเมือง

ไม่ว่าการปรากฏตัวของ 2 พี่น้องแห่งตระกูล “ชินวัตร” ในงานเปิดตัวหนังสือเล่มหนึ่งกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะมีเป้าหมายใดในทางการเมือง

แต่ก็ต้องยอมรับในความแหลมคม

แหลมคม 1 เพราะเป็นการปรากฏตัวในบรรยากาศฝุ่นตลบของโรดแม็ป “เลือกตั้ง” ที่หวาดเสียวอย่างยิ่งว่าอาจต้อง “เลื่อน” และชะลอออกไปอีกจากเดือนกุมภาพันธ์ 2562

แหลมคม 1 เพราะเป็นการปรากฏตัวอย่างแตกต่างไปจากอดีต

ในอดีตไม่ว่าจะเป็นการปรากฏตัวที่ลอนดอน ที่ปักกิ่ง ที่ฮ่องกง สิงคโปร์ ก็เป็นเรื่องของการเดินทางไปตามปกติธรรมดา แต่ครานี้เป็นงานเป็นการ

ทั้งยังเป็นงานของบุคคลระดับ “อดีตรัฐมนตรี”

 

ในเมื่อเป็นงานของบุคคลระดับ “อดีตรัฐมนตรี” และสัมพันธ์กับสื่อระดับยักษ์ใหญ่ระดับโลก การเป็นแขกภายในงานของ “อดีตนายกรัฐมนตรี” ก็ย่อมเป็นข่าว

ไม่เพียงแต่ “ภาพนิ่ง” หากยังมี “ภาพเคลื่อนไหว”

ที่สำคัญเป็นอย่างมากยังออกมาพูดแสดงความมั่นใจ 1 การเลือกตั้งตามโรดแม็ปในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 น่าจะมีขึ้น

และ 1 เป็นความคึกคักที่พรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลาย

การเน้นย้ำไปยังโรดแม็ปการเลือกตั้งภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ถือว่าแหลมคมอย่างยิ่งอยู่แล้ว ความมั่นใจในชัยชนะของพรรคเพื่อไทยยิ่งสร้างความปวดร้าว

เท่ากับรัฐประหารเมื่อปี 2557 ไม่มีความหมาย

 

อย่าได้แปลกใจที่คำว่าชัยชนะอันออกมาจากปากของ “อดีตนายกรัฐมนตรี” หัวหน้าพรรคไทยรักไทยจะนำไปสู่การต่อยอดภายในประเทศโดยอัตโนมัติ

เห็นได้จากจำนวน 220-230 ส.ส.ที่จะได้รับเลือก

นี่เป็นเพียงจำนวน ส.ส.ในระบบเลือกตั้งแบบเขต ยังไม่ผนวกรวมจำนวน ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อเข้าไปด้วยซ้ำ

แม้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะไม่เชื่อ

แต่การที่จำนวน 220-230 ส.ส.ได้รับการตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก ย่อมสร้างความหงุดหงิดให้เป็นอย่างสูง

เพราะหากเป็นจำนวนนี้ย่อมเท่ากับ “เสียของ”

 

หมายความว่าการวางกฎกติกาไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายลูก ไม่ว่าจะเป็นประกาศและคำสั่งคสช.แทบจะไม่มีความหมายอะไรเลย

เพราะพรรคเพื่อไทยยังได้รับเลือก

อาจไม่ถึงกับถล่มทลายเหมือนการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2548 แต่ก็น้องๆ กับการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 และเหมือนกับการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554

อันเป็นที่มาของคำว่า “เสียของ” ในทางการเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน