ทิ้งหมัดเข้ามุม
มันฯ มือเสือ
รัฐบาลออกมาตรการปล่อยสินเชื่อชะลอขายข้าวเพื่อแก้ราคาตกต่ำ หรือมาตรการ “จำนำยุ้งฉาง” แล้ว 2 รอบ
ครอบคลุมข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกปทุมธานี
ใช้งบกว่า 3.8 หมื่นล้านบาท แต่ก็ยังแก้ปัญหาได้ไม่สะเด็ดน้ำ
ชาวนาส่วนหนึ่งพอใจ เพราะช่วยดึงราคาข้าวเปลือกให้สูงขึ้นได้จริง
แต่กับชาวนาบางจังหวัดไม่เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะชาวนาภาคกลางส่วนใหญ่ไม่มียุ้งฉางเก็บข้าว
หรือมีก็เป็นยุ้งฉางเล็กๆ ไว้เก็บข้าวสีกินเอง
ไม่ใช่ยุ้งฉางสร้างขึ้นแบบมาตรฐานโกดังเก็บไว้รอจำหน่าย ทำให้ไม่สามารถรักษาคุณภาพข้าวไว้ได้ หากเก็บไว้นานข้าวก็จะเสีย เกี่ยวแล้วจึงต้องรีบขายให้โรงสี
ปัญหาตามมาคือโรงสีคิดราคาต่ำกว่ารัฐบาลกำหนด
กับอีกปัญหาหนึ่ง ยังมีชาวนาจำนวนไม่น้อยไม่รู้รายละเอียดมาตรการของรัฐบาลดีพอ คิดว่านำข้าวเปลือกสดความชื้นสูง ไม่ผ่านการตากหรืออบแห้ง ก็นำมาเข้าร่วมได้เลย
ไม่กี่วันก่อนอีสานโพล ม.ขอนแก่น เปิดผลสำรวจความเห็นชาวนาอีสาน 20 จังหวัดเกี่ยวกับมาตรการแก้ปัญหาของรัฐบาล
พบว่าร้อยละ 35 ให้คะแนนพอใช้ ร้อยละ 28.3 ให้คะแนนดี ร้อยละ 22.9 ให้คะแนนแย่ และร้อยละ 12.4 ให้คะแนน แย่มาก
สะท้อนว่ามาตรการดังกล่าวยังไม่โดนใจชาวนาส่วนใหญ่
คะแนนระดับแย่ถึงแย่มาก รวมกันแล้วสูงเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 35.3
ดังนั้น จึงจำเป็นที่หน่วยงานรัฐไม่ว่ากระทรวงพาณิชย์ ธ.ก.ส. หรือแม้แต่ ทีมงานโฆษกรัฐบาลและทีมงานกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามีหน้าที่อะไร
ต้องเร่งหาวิธีแจ้งข่าวสารให้ชาวนารับทราบมาตรการอย่างทั่วถึง อันนำไปสู่การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่ถูกต้อง เพื่อให้มาตรการจำนำยุ้งฉางเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เพลาๆ ตอบโต้ประเด็นการเมืองลงบ้าง
จะเป็นประโยชน์ต่อชาวนาและประเทศชาติไม่น้อย