คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
มันฯ มือเสือ
พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง
ก่อให้เกิดข้อโต้เถียงกันมากพอสมควรระหว่างพรรคการเมือง กรธ. และสนช.
ล่าสุดกรธ.ได้เปิดเวทีเชิญตัวแทนพรรคมาร่วมแลกเปลี่ยนแสดงความ คิดเห็น
ซึ่งบางพรรคมองว่าไม่น่าเกิดประโยชน์ เพราะไม่ว่าจะเสนอความเห็นอะไรไปก็คงไม่เป็นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เนื่องจากคนร่างคือกรธ.มีธงในใจแล้วว่า ต้องการให้เนื้อหาร่างออกมาแนวไหน
กฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมืองนี้ เป็น 1 ใน 4 ฉบับที่จำเป็นต่อการเลือกตั้ง
อีก 3 ฉบับคือกฎหมายว่าด้วยกกต. เลือกตั้งส.ส. และที่มาของส.ว.
ฉบับเดียวยังเถียงกันวุ่นขนาดนี้ ถ้ามาครบ 4 ฉบับนึกดูว่าจะวุ่นขนาดไหน
อันที่จริงเรื่องความคิดเห็นขัดแย้ง เกี่ยวกับกฎหมายลูก เป็นเรื่องคาดเดาได้อยู่แล้ว
เพราะปัญหาขัดแย้งนี้มีมาตั้งแต่สมัยยกร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายแม่บท หนักกว่านี้ด้วยซ้ำไป
ถามว่าปัญหาเกิดจากอะไร ก็เกิดจากการที่กรธ.ถูกคนในสังคมจำนวนหนึ่งครหาว่า ไม่ได้มาตามวิถีทางประชาธิปไตย แล้วจะร่างรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย ได้อย่างไร
แต่แล้วผลประชามติ 7 ส.ค.2559 ก็ทำให้ฝ่ายคัดค้านถึงกับจุกพูดไม่ออก
ปัจจุบันรัฐบาลได้นำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ไปแล้วเมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา
ต้องจับตาเส้นทางร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2559 จะราบรื่นสมหวังอย่างที่คสช.และแม่น้ำ 5 สายต้องการ
หรือไม่ อย่างไร?