บทพิสูจน์พรรคอนาคตใหม่
โดย รุก กลางกระดาน
ถือเป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ไฟแรง ที่ชื่อเสียงเริ่มติดหูคนทั้งประเทศ
สำหรับพรรคอนาคตใหม่ ที่มี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง เป็นหัวหน้าพรรค และมี ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง เป็นเลขานุการพรรค
ด้วยการจัดระบบให้เป็นพรรคของมวลชน มีจุดยืนชัดเจน ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของคสช. ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ
ส่งผลให้กระแสตอบรับดีเกินคาด
นอกจากนี้การจัดตั้งภายในองค์กรก็น่าจับตามอง
แต่ละพื้นที่เดินหน้าหาสมาชิก เพื่อเข้ากำหนดขั้นต่ำการทำไพรมารีโหวต
ขณะที่ผู้นำพรรค ก็เดินสายโรดโชว์สร้างการยอมรับในต่างประเทศ ตามแนวทางประชาธิปไตยที่โลกให้การยอมรับ
แต่ยังไม่ทันไร ก็ต้องถูกเบรกเสียเกือบหัวทิ่ม เมื่อมี “มือมืด” อ้างตนเป็นคนจาก กกต.โทรศัพท์สั่งห้ามรับบริจาค-ระดมทุน
อ้างว่าขัดประกาศคสช.ที่ 57/2557
สร้างความมึนงงสงสัยว่า ในเมื่อการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนก.พ. 2562 ซึ่งเป็นไปตามคำมั่นสัญญาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.
เหลืออีกแค่ 3 เดือน ไม่ให้ระดมทุนมาใช้จ่ายเลือกตั้ง แล้วจะให้ทำอย่างไร
ไม่รวมกับข้อสงสัยที่พรรคการเมืองอื่นประกาศรับบริจาคกันอย่างโจ๋งครึ่ม แต่กลับไม่ถูกตักเตือน หรือห้ามปราม
ที่สำคัญทำไมต้องโทรศัพท์แจ้งเตือนเป็นรายเฉพาะ เหตุใดไม่ทำหนังสือลงนามรับรองอย่างเป็นทางการจากกกต.
หรือการเร่งรีบสนองต่อประกาศคสช. เป็นภารกิจที่กกต.ไม่อาจจะรอการสื่อสารในรูปแบบที่เป็นทางการได้!??
หากเป็นเช่นนั้น ก็ยิ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของกกต.เอง เพราะอย่าลืมว่าหน้าที่ของกกต.คือการควบคุมการเลือกตั้งให้โปร่งใสและบริสุทธิ์ยุติธรรม
ยิ่งมีการกระทำที่ส่อให้เข้าใจว่าเลือกปฏิบัติเช่นนี้ ย่อมไม่เป็นผลดี
รวมทั้งอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ามีใครหวั่นไหว หวาดผวา “พรรคอนาคตใหม่” จนออกอาการเตะสกัด
แต่อีกมุมหนึ่งก็ดีที่ทำให้ประชาชนรู้ว่าการ “เลือกตั้งสกปรก” มันไม่ใช่แค่จินตนาการ
รวมทั้งพิสูจน์ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพรรคอนาคตใหม่ จะมากพอที่จะล้มการสืบทอดอำนาจได้หรือไม่
น่าติดตามจริงๆ!!
