ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
แชร์กันว่อนในอินเตอร์เน็ต สำหรับภาพของนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภรรยาของพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ยืนอยู่บนพรมแดงชมการแสดงฟ้อนรำของชาวเขา
ท่ามกลางการต้อนรับของนายทหารน้อยใหญ่ ที่ถือร่มป้องกันสายฝนที่โปรยปรายมาเป็นระยะๆ
เมื่อตรวจสอบดูก็พบข้อมูลจากเว็บไซต์สมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมระบุกิจกรรมดังกล่าวไว้ว่า นางผ่องพรรณ ปฏิบัติภารกิจในฐานะนายกสมาคม
โดยวันดังกล่าวไปเป็นประธานมอบฝายชะลอน้ำที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา (ปางปอย) ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
และให้ชื่อฝายแห่งนี้ว่าฝาย “แม่ผ่องพรรณพัฒนา” ซึ่งสอดรับกับชื่อของนางผ่องพรรณ
สร้างความสงสัยให้กับสังคมว่าฝายดังกล่าวที่ใช้ชื่อของตัวบุคคลนั้น เป็นการใช้เงินส่วนบุคคลจัดทำขึ้นมา หรือใช้งบประมาณของหน่วยงานของรัฐกันแน่
ทั้งนี้หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งพล.อ.ปรีชา และนางผ่องพรรณ กลับไม่ได้ออกมาชี้แจงให้สังคมได้รับทราบข้อเท็จจริง
มีเพียงคนใกล้ชิดยืนยันว่า ชื่อแม่ผ่องพรรณพัฒนา ปรากฏอยู่แค่ในป้ายต้อนรับ ซึ่งปลดออกไปแล้ว อ้างว่าไม่ใช่ชื่อฝายจริงๆ แต่ อย่างใด
แม้กระนั้นประชาชนในนามสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินหน้ายื่นร้องป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ
ทั้งเรื่องการสร้างฝาย และการที่มีชื่อมอบแท็งก์น้ำให้กับหน่วยทหารอื่นๆ
ว่าเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินหรือเงินส่วนบุคคล
และหากใช้งบหลวงทำไมถึงตั้งชื่อบุคคลนอกที่ไม่ใช่ข้าราชการของกระทรวงกลาโหมมาร่วมด้วย
ซึ่งสงสัยว่าอาจเข้าข่ายความผิดพ.ร.บ. ป.ป.ช. หรือไม่
เรื่องนี้ถือเป็นการดี ซึ่งป.ป.ช.ก็ควรรับเรื่องไว้พิจารณาและตรวจสอบให้เรียบร้อยโดยไว แล้วรีบแถลงให้สาธารณะได้รับทราบ
ว่าทำอย่างนี้ผิดหรือไม่
ถ้าผิดก็ต้องว่ากันตามระเบียบ หรือถ้าไม่ผิด ก็จะได้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติให้ทุกหน่วยงานดำเนินการในรูปแบบเดียวกัน
ให้มีมาตรฐานเดียว สังคมจะได้ ไม่สับสน เจ้าหน้าที่ก็ทำงานง่าย คนก็เลิกคับข้องใจ
มีแต่ข้อดีทั้งนั้น