ทิ้งหมัดเข้ามุม
สมิงสามผลัด
จากโศกนาฏกรรมสะเทือนใจ เหตุการณ์เรือล่มหน้าวัดสนามไชย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้มากถึง 28 ศพ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้เรือเสร็จพบว่าหัวเรือด้านขวามีรอยแตกชำรุดเกิดจากการกระแทก กว้างประมาณ 80 เซนติเมตร ยาว 8 เมตร ซึ่งเป็นสาเหตุให้เรือล่ม
แต่จากการสอบสวนพบว่าเรือมีการบรรทุกน้ำหนักเกิน แล่นด้วยความเร็ว และเร่งเครื่องแซงเรือบรรทุกทรายที่กำลังลากเข้าโค้งน้ำ โดยแซงทางด้านขวาของเรือทรายจนช่องว่างระหว่างเรือทรายและแนวตลิ่งมีน้อย ทำให้เรือลำที่จมเสียการการควบคุม หัวเรือเริ่มเบนเข้าหาตลิ่ง
คนขับเรือพยายามจะถอยหลังเพื่อเบรกความเร็ว แต่ไม่ทัน เรือพุ่งชนเขื่อนปูนหน้าวัดจนท้องเรือแตก กลายเป็นโศกนาฏกรรมสลดในที่สุด
ตำรวจจึงแจ้งข้อหาคนขับเรือกระทำ การประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและบาดเจ็บสาหัส ขับเรือโดยบรรทุกผู้โดยสารมากกว่าที่ได้รับอนุญาต และใบอนุญาตขับเรือหมดอายุ
แต่โศกนาฏกรรมนี้ก็เกิดดราม่าขึ้นจนได้ เมื่อมีสื่อหลายสำนักโพสต์คลิปที่ถ่ายโดยคนที่อยู่ในเรือช่วงโกลาหลกำลังจะจม จนมีเพจบางเพจไปเขียนโจมตีว่าสื่อไม่ควรโพสต์คลิปนี้ แล้วแสดงความเห็นว่าสังคมได้อะไร คนดูแล้วได้อะไรจากคลิปพวกนี้ อีกทั้งยังกระทบกับความรู้สึกญาติของเสียชีวิต
ในประเด็นเรื่องความเศร้าสลดกระทบจิตใจนั้นเป็นความจริง แต่ถ้าบอกว่าสังคมไม่ได้อะไรเลยจากคลิปนี้ คิดว่าไม่น่าจะใช่แบบนั้น
เพราะคลิปนี้สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนว่าอุบัติเหตุใหญ่ๆ ที่มีการสูญเสีย มหาศาลนั้นเกิดจากอะไร ฉะนั้น คลิปเหล่านี้จึงถือเป็นบทเรียนที่คนดูต้องเรียนรู้ว่าทำยังไงเมื่อเกิดเหตุเรือล่ม
เรียนรู้ว่าจะเอาตัวรอดอย่างไร
ที่สำคัญในท้ายคลิปนั้น สื่อหลายสำนักลงข้อมูลและวิธีการรับมืออย่างไรเมื่อเกิดเหตุเรือล่มประกอบท้ายข่าวไว้ด้วย
เพราะคนเราต้องเรียนรู้จากอดีต เพื่อปรับปรุงไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดอีกในอนาคต
ไม่ใช่คิดแต่จะดราม่าสร้างกระแสอย่างเดียว