คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

สมิงสามผลัด

ในที่สุดก็เขียนจดหมายขอโทษสังคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ นายสุภัฒ สงวนดีกุล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่ถูกจับกุมที่ประเทศญี่ปุ่นฐานขโมยภาพวาด ได้เขียนจดหมายถึงสาเหตุที่ไปขโมยภาพว่า หลังจากไปสังสรรค์กับเพื่อนชาวญี่ปุ่นสมัยเรียน แต่สนุกจนเผลอตัวดื่มเหล้ามากเกินไป โดยไม่รู้ตัวทำในสิ่งไม่สมควร

ก่อนประกาศแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมจับตามอง ขนาดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังต้องให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อฟังเหตุผลว่าทำเพราะอะไร มีอะไรมากน้อยไปกว่าการที่อยากได้ของหรือไม่ เพราะของไม่ได้มีราคาแต่ทำไมถึงทำ ต้องหาข้อเท็จจริง เมื่อตรวจสอบเสร็จก็เอาข้อเท็จจริงที่ว่ามา โดยให้ความเป็นธรรมและให้ชี้แจงมา เพื่อนำไปสู่คณะกรรมการตรวจสอบทางวินัยและลงโทษ

ส่วนน.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน ว่า แม้นายสุภัฒจะขอลาออกแล้ว แต่ยังต้องรับการพิจารณาโทษ โดยคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงจะดำเนินการต่อจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ

ตามระเบียบราชการแล้ว หากผลการสอบสวนระบุผิดวินัยร้ายแรง จะมีโทษปลดออกและไล่ออก หากปลดออกจะยังได้รับบำเหน็จและบำนาญ แต่หากโดนไล่ออกจะไม่ได้รับทั้ง 2 อย่าง

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันกว้างขวางในสังคม โดยเฉพาะเรื่องจริยธรรม เพราะมีคนตั้งข้อสงสัยกันมากว่าทำผิดกฎหมาย ผิดคดีอาญา แล้วขอโทษเท่านี้..จบเลยเหรอ

ที่สำคัญมีคนนำไปเทียบกับคดีเมื่อปี 2558 ที่สาวไทยคนหนึ่งถูกตำรวจญี่ปุ่นจับข้อหาขโมยของในสวนสนุก

สาวไทยรายนั้นโดนจัดเต็ม เจอขังคุกนาน 2 เดือน ผิดกับรองอธิบดีท่านนี้ได้รับการปล่อยตัว หลังจากขอโทษขอโพยแบบจริงจังและจริงใจแล้ว

จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่าการช่วยเหลือของทางการไทยต่อ 2 กรณีที่คล้ายกันนี้ ทำไปด้วยความเต็มที่เต็มความสามารถเหมือนกันหรือไม่

เพราะผลทางคดีต่างกันลิบลับจริงๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน