ตัวปัญหา!??

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย…รุก กลางกระดาน

ตัวปัญหา!?? : ทิ้งหมัดเข้ามุม – เป็นอีกบทหนึ่งของการเมืองไทย ในยุคบ้านเมืองหลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม

ซึ่งถือเป็นการเลือกตั้งที่มีเรื่องให้โจษจันกันอย่างกว้างขวาง

ไม่ว่าจะเป็นการที่พรรคพลังประชารัฐ ที่หนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่ง นายกฯ ต่อ จะได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด

สามารถยึดหลายพื้นที่ใน กทม. ภาคใต้ และภาคอีสานได้

หรือจะเป็นการก้าวขึ้นมาของพรรคอนาคตใหม่ ที่ชูเรื่องอุดมการณ์ต่อต้านเผด็จการสืบทอดอำนาจ ที่ได้คะแนนร่วม 5 ล้านเสียง มีทั้งส.ส.แบบเขต และบัญชีรายชื่อเกือบ 80 คน

รวมทั้งความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สูญพันธุ์ใน กทม. ภาคใต้ที่เคยเป็นฐานถูกเจาะเสียกระจุยกระจาย ขุนพลฝีปากกล้าหลายคนสอบตก อดมีเก้าอี้ในสภา

แม้เรื่องนี้จะไม่ได้ผิดคาด เพราะที่ผ่านมาในยุค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค นอกจากบอยคอตการเลือกตั้งไป 2 หน

ที่เหลือลงสนามสู้ศึกเลือกตั้ง ก็ไม่เคยได้รับชัยชนะมาก่อน

เพียงแต่ครั้งนี้มันบอบช้ำรุนแรง ก็เพราะกลายเป็นพรรคต่ำร้อย จนนายอภิสิทธิ์ต้องโบกมืออำลาจากตำแหน่ง

หรือจะเป็นเรื่องพรรคเพื่อไทย ที่ส่งผู้สมัครเพียง 250 เขต แต่ก็ได้ส.ส.เขตมามากที่สุดมาเป็นอันดับ 1 แถมคะแนนรวมยังมาเป็นอันดับ 2

ถือเป็นเกมสมการการรวมคะแนนเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลกันต่อไป

พรรคการเมืองจะเปิดโอกาสให้พรรคได้ส.ส.อันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลก่อน หรือจะยื้อแย่ง แสดงพลังดูด เอา 250 ส.ว.เป็นฐาน

ก็เป็นเรื่องที่ต้องลุ้นกันต่อไป

แต่การเลือกตั้งครั้งนี้จะปฏิเสธพูดถึงการทำงานของ กกต.เลยคงเป็นไปไม่ได้

เมื่อการทำงานที่ใช้งบถึง 5.8 พันล้านบาท ก็ต้องถูกตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพ ทั้งเรื่องวิจารณญาณและการบริหารจัดการ

ไล่ตั้งแต่การจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เลือกตั้งล่วงหน้า

จนมาถึงเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งน่าสงสัยว่าอำนวยการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ เที่ยงธรรม หรือไม่

ดังจะเห็นได้จากข้อสงสัยที่นับคะแนนอย่างล่าช้า บางเขตมีเพิ่ม-ลด อย่างมีเลศนัย

หรือแม้กระทั่งคะแนนที่มีมากกว่าผู้ใช้สิทธิในบางเขต มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

เป็นเรื่องที่ต้องทำให้กระจ่าง

ไม่เช่นนั้น กกต.ที่ควรเป็นหลักในการแก้ปัญหา

อาจจะกลายเป็นปัญหาของการเลือกตั้งเสียเอง