ทางเลือกของ‘เสี่ยหนู’
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ทางเลือกของ‘เสี่ยหนู’ – ผลเลือกตั้ง 24 มีนาคม พรรคอนาคตใหม่ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แจ้งเกิดเต็มตัว ในฐานะพรรคอันดับ 3 ของตารางคะแนน ด้วยจำนวนส.ส. 88 ที่นั่ง อย่างไม่เป็นทางการ
แต่ถ้าพูดถึงพรรคเนื้อหอม ต้องยกให้พรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล เป้าหมายไล่ตะครุบของ 2 พรรคใหญ่ ตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตย กับฝ่ายสืบทอดอำนาจ ที่กำลังแข่งขันช่วงชิงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ด้วยจำนวนส.ส.ที่พรรคภูมิใจไทยได้มา 53 ที่นั่ง ประกอบกับมีจุดยืน “แทงกั๊ก” มาตั้งแต่แรก เลยทำให้แกนนำ 2 ขั้วต่างมีความหวัง
แม้บางจังหวะดูเหมือนเอนเอียงมาทางฝั่งสืบทอดอำนาจ
แต่ช่วงโค้งสุดท้าย 2 สัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง เสี่ยหนูก็ประกาศพรรคมีจุดยืนว่า นายกฯคนใหม่ต้องมาจากการเลือกของส.ส.เท่านั้น ไม่ใช่กลุ่มคนไม่ได้มาจากเลือกตั้งของประชาชน
หลังเลือกตั้ง เสี่ยหนูพูดอีกว่า จุดยืนพรรคคือไม่สนับสนุนให้มีนายกฯ ที่มีเสียงข้างน้อยในสภา
ฟังแล้วเหมือนชัด แต่ก็ยังไม่ชัด ต้องถอดรหัสตีความกันอีกหลายตลบ หลายคนเชื่อว่านักการเมืองระดับเสี่ยหนู ไม่พูดอะไรผูกมัดตัวเองง่ายๆ แน่นอน
ด้วยจำนวนส.ส. 50 เสียงต้นๆ ทำให้ภูมิใจไทยกลายเป็นพรรค “ตัวแปร” สำคัญ ในการกำหนดโฉมหน้าการเมืองนับจากนี้ว่าจะออกมาอย่างไร
เปลี่ยนแปลง หรือคงสภาพเดิม
การเมืองนาทีนี้ หากพรรคภูมิใจไทยยกโขยงเข้ากับฝ่ายไหน ฝ่ายนั้นก็จะเป็นผู้ชนะ ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน ร้อยเปอร์เซ็นต์
ด้วยเหตุนี้ เสี่ยหนูจึงน่าจะตัดสินใจยากพอสมควร
หลายคนแนะนำ หากไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร วิธีง่ายๆ ให้ฟังเสียงประชาชน ที่ได้สะท้อนผ่านการเลือกตั้งส.ส.ไว้แล้ว ตรงนี้แหละคือคำตอบดีที่สุด
ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายสืบทอดอำนาจ
พรรคภูมิใจไทยควรเลือกยืนข้างไหน