วิกฤตศรัทธา กกต.

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

วิกฤตศรัทธา กกต. – การเลือกตั้งใหญ่ผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว 2 ฝั่งพรรคการเมืองใหญ่ คือ ฝั่งต้านสืบทอดอำนาจ กับฝั่งสนับสนุนบิ๊กตู่ ก็ยังชิงไหวชิงพริบ แย่งชิงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจำนวน ส.ส.เขตตอนนี้ มีมากที่สุด มีความชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ส่วนพรรคพลังประชารัฐก็อ้างคะแนนรวม หรือป๊อปปูลาร์โหวต ที่มีมากสุด เหมาะสมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเช่นกัน

ทั้งหมดทั้งปวงก็ต้องรอหลังวันที่ 9 พ.ค. เพราะเป็นกำหนดการที่ กกต.จะประกาศจำนวน ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ อย่างเป็นทางการ

แต่ห้วงเวลานี้กลับมีดราม่า กกต. ขึ้นมาอีกรอบ

เป็นเรื่องสูตรการคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่ กกต.ยังไม่ยอมเคาะออกมาว่าจะใช้สูตรคำนวณแบบไหน ซึ่งตอนนี้ออกมา 2 กระแส แบบหนึ่งจะมีมากกว่า 10 พรรคได้ส.ส. 1 คน และอีกแบบคือได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวน 26 พรรค

การคำนวณที่แตกต่างกัน 2 แบบส่งผลถึงการจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน

จำนวน ส.ส.ของพรรคแนวร่วมฝั่งหนึ่งอาจจะลดน้อยลง แล้วพรรคอีกฝั่งได้ ส.ส. เพิ่มขึ้น

ฉะนั้น พรรคการเมืองส่วนใหญ่จึงเรียกร้องให้ กกต.เปิดเผยสูตรคำนวณให้ชัดเจน แต่เลขาฯ กกต. กลับบอกเพียงว่า “กกต.ยังไม่ได้เริ่มคำนวณเลย ส่วนเรื่องจุดทศนิยม หรือการปัดเศษต่างๆ ผมยังไม่ขอตอบ”

ตรงนี้ก็เลยกลายเป็นกระแสวิจารณ์อย่างหนักหน่วง

ปกติการเลือกตั้งระดับชาติ กกต. ต้องตระเตรียมทุกอย่างไว้ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนบัตรเลือกตั้งที่พิมพ์ทั้งหมด บัตรเกิน และวิธีการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ต้องประกาศต่อสาธารณะ ให้คนทั้งประเทศรับรู้ เพราะทุกอย่าง ต้องโปร่งใส

แต่ กกต.ชุดนี้กลับบอกเพียงว่าเรื่องพิมพ์บัตรเป็นความลับ สูตรคำนวณ ส.ส.ก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้สูตรไหน

เอะอะก็ให้รอหลังวันที่ 9 พ.ค.ลูกเดียว

ต้องรอดูว่า หลังวันที่ 9 พ.ค. ยอดประชาชนที่เข้าชื่อถอดถอน กกต. ผ่าน www.change.org จะได้เกิน 1 ล้านคน หรือไม่

เพราะล่าสุดนี้มีคนลงชื่อแล้ว 8.3 แสนคน

กกต.ต้องรีบเคลียร์ความกังขาและคาใจของประชาชนให้ได้โดยด่วน

สมิงสามผลัด