9 ปี 10 เมษา 53 ยังไม่ลืม

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

รุก กลางกระดาน

9ปี10เมษา53ยังไม่ลืมยังเป็นการเมืองที่ร้อนแรง และยังไม่สามารถมองอนาคตประเทศออกได้ชัดเจนแม้จะผ่านการเลือกตั้งทั่วไป ได้พรรคอันดับ 1 ไปเรียบร้อย

ซึ่งหากเป็นภาวะปกติ ก็คงเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ตามฉันทามติของประชาชน

แต่เมื่ออยู่ในยุคสมัยนี้ ที่ยังมีคนไม่ยอมรับกติกาว่าแพ้ แถมยังดีไซน์กำลังเสริมอย่าง 250 .. เป็นแบ๊กอัพ

ขณะที่กกต.ก็ยังสับสนกับการคิดคะแนนส..บัญชีรายชื่อ แถมยังมีใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง ไว้ใช้อีก จนทำให้จำนวนส..ยังไม่นิ่งเท่าที่ควร

ไม่เพียงแค่นั้น หัวหน้าพรรคอันดับ 3 ที่เป็นตัวหลักของฝ่ายประชาธิปไตย อย่างธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็โดนคดีหนักอย่าง ม.116 จากเหตุการณ์เมื่อเกือบ 4 ปีก่อน

แม้จะบอกว่าไม่ได้เตะตัดขา แต่ก็คงห้ามความรู้สึกตะขิดตะขวงของสังคมได้ยากพอสมควร

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ต้องอดใจรอและติดตามบทสรุปที่จะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามวันนี้ก็ยังมีเรื่องที่ต้องรำลึก และตอกย้ำเพื่อไม่ให้เลือนหาย สำหรับการครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์ 10 เมษา 2553 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นการใช้กระสุนจริงในการขอคืนพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง

ซึ่งเกิดขึ้นในยุคที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกฯและผอ.ศอฉ.

เกิดการสูญเสียที่แยกคอกวัว นำมาซึ่งการเสียชีวิตของประชาชนคนไทยด้วยกัน และนักข่าวต่างชาติ

และแทนที่เรื่องราวจะยุติ หรือเบาบางกลับทวีความรุนแรง มาเป็นการใช้กำลังเต็มรูปแบบ เปิดพื้นที่เขตกระสุนจริง ใช้สไนเปอร์ในเมือง

จนเกิดความสูญเสียถึง 99 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันคน

ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างยิ่งที่เวลา ผ่านมาถึง 9 ปีแล้ว คดีความเหล่านี้ก็ยังไม่มีบทสรุป

แถมยังไม่คืบหน้าเลยตลอด 5 ปีหลังการรัฐประหาร

คนสั่งฆ่ายังลอยนวล ท่ามกลางความเจ็บแค้นของญาติผู้เสียชีวิต

แต่ก็ยังพอจะคาดหวังได้อยู่ เมื่อสำนวน 17 ศพผ่านการไต่สวนการตายของศาลอาญาเรียบร้อย รอเวลาคืนกลับมาพิจารณาอีกครั้ง

รอให้สังคมได้เห็นว่าความยุติธรรมมีจริง!??

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน