ใครกันเผาบ้านเมือง

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย รุก กลางกระดาน

ใครกันเผาบ้านเมือง – เป็นอีก 1 คำพิพากษาศาลฎีกาที่นับเป็นบรรทัดฐานในอนาคต

รวมถึงเป็นคำอธิบายเหตุการณ์การสลายการชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553 จนมี ผู้เสียชีวิต 99 ศพ บาดเจ็บกว่า 2 พันคน

สำหรับคำพิพากษาที่ให้บริษัทประกันภัย 6 แห่ง ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ตลาดหลักทรัพย์และแห่งประเทศไทย และพวก เพื่อชดเชยกรณีเหตุไฟไหม้อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553

คดีดังกล่าวบริษัทประกันภัยปฏิเสธ ไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนความเสียหาย โดยอ้างว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการลุกฮือของประชาชน เพื่อต่อต้านรัฐบาล เข้าข่ายการก่อการร้าย ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมเงื่อนไขการประกันภัย

โดยชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง จึงต้องมาต่อสู้กันต่อในชั้นศาลฎีกา ซึ่งมีคำพิพากษากลับให้บริษัทประกันภัยทั้ง 6 จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับโจทก์ เป็นเงินรวมทั้งหมดร่วมร้อยล้านบาท

โดยระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากกลุ่มบุคคลบุกรุกเข้าไปในอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ และก่อให้เกิดเพลิงไหม้อาคารจนทรัพย์สินเสียหาย

จึงเป็นความเสียหายที่เกิดจากเหตุเพลิงไหม้ และการกระทำด้วยเจตนาร้าย

ทั้งนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าเพลิงไหม้อาคาร เกิดขึ้นเวลา 15.00 น. ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่แกนนำผู้ชุมนุมประกาศยุติการชุมนุมตอน 13.00 น.

ขณะที่ผู้ก่อเหตุทุบทำลายและเผาอาคารก็มีประมาณ 10 คน และปิดบังอำพรางใบหน้า เมื่อก่อเหตุแล้วหลบหนีไปทันทีโดยไม่มีประชาชนอื่นใดร่วมทำการ

จึงไม่มีน้ำหนักรับฟังว่าเป็นการก่อความไม่สงบของประชาชนที่ลุกฮือต้านรัฐบาล

และเมื่อย้อนไปเมื่อปี 2556 ศาลแพ่งก็พิพากษาในคดีที่เซ็นทรัลเวิลด์ ให้บริษัทประกันภัยชดใช้ค่าเสียหาย เพราะฟังไม่ได้ว่าเป็นการก่อการร้าย อีกทั้งเหตุเกิดหลังจากที่ยุติการชุมนุมไปแล้ว

ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจึงเป็นเครื่องตอกย้ำให้เห็นว่าสิ่งที่เรียกว่าเผาบ้านเผาเมืองที่โจมตีกันตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

ไม่ใช่ฝีมือของคนเสื้อแดง

แน่นอนพวกเผาบ้านเผาเมืองมีจริง แต่ใครเป็นคนลงมือ ทั้งที่พื้นที่เหล่านี้ถูกควบคุมโดยทหาร

ใครกันที่มีความสามารถลงมือแล้วหลบเร้นออกมาโดยไม่มีทหารคนใดมองเห็น

เป็นเรื่องที่ต้องสืบหากันต่อไป และหวังว่าความจริงคงจะปรากฏ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน