เสียงของประชาชน

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

โดย… รุก กลางกระดาน

เสียงของประชาชน – ไม่รู้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดกันมาถึงขนาดไหน ประเทศไทยจึงยังไม่พ้นบ่วงกรรม ที่สารพัดปัญหาถาโถม

ถูกรัฐประหารยึดอำนาจมา 5 ปี พอเลือกตั้งใหม่ ผ่านมาเกือบ 2 เดือนก็ยังมองไม่ออกว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล

จาก 2 ขั้ว 2 ฝ่าย พัฒนาบานปลาย ไปเกิดมีขั้วที่ 3 ซึ่งมีอำนาจต่อรอง ถึงขั้นว่าหากไม่เอาเก้าอี้นายกฯ เอง ก็ต้องได้ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ

ที่น่าเศร้ามากไปกว่านั้น คือกลุ่มคนพวกนี้พูดอย่างไม่อับไม่อาย ว่าที่ยังไม่แสดงท่าทีชัดเจน ไม่ใช่เรื่องต่อรองไม่ลงตัว หรือประโยชน์ที่อยากได้ มันยังไม่เพียงพอ

กลับใช้ถ้อยคำสวยหรูอย่าง ‘รอฟังเสียงประชาชน’

ทั้งที่ที่ผ่านมาประชาชนได้ออกเสียงเลือกไปแล้ว และมีผลให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วด้วยผ่านการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

อย่างที่เห็นว่าพรรคเพื่อไทยได้ส.ส. อันดับ 1 ถึง 137 คน

แม้สุดท้ายจะถูกสอยใบส้ม เพราะบริจาคเงินให้พระสงฆ์จนเหลือ 136 คน ก็ถือว่ายังเป็นอันดับ 1 อยู่ดี

ไม่เพียงแค่นั้น ยังจับมือกับพรรคการเมืองรวม 7 พรรค เพื่อประกาศจุดยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตย จนได้เสียงเกินครึ่งของส.ส. ในสภา

แต่ก็น่าเสียดายที่ กกต.อุตส่าห์ไปสรรหาสูตรพิสดาร ในการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำให้ส.ส.ฝ่ายนี้เหลืออยู่ 245 เสียง

เปิดโอกาสให้พรรคเล็กได้เสียงไปคนละ 1 เสียงถึง 11 พรรค และถูกพรรคพลังประชารัฐสอยไปเป็นพวกเรียบร้อย

แต่กระนั้นทุกอย่างก็แสดงออกชัดเจนว่า เสียงส่วนใหญ่ของประเทศยืนอยู่ข้างไหน

พรรคการเมืองที่อ้างเป็นขั้วที่ 3 ก็ต้องสำนึกไว้ด้วยว่าที่ได้รับเลือกมา ตอนสัญญากับประชาชนช่วงหาเสียงบอกเขาว่าอย่างไร

จะหยุดการสืบทอดอำนาจ หรือเป็นเสลี่ยงให้เผด็จการ

คำสัญญาในอดีตมันถูกบันทึกเอาไว้หมด และไม่ใช่ว่าคนไทยทั้งหมดจะลืมง่าย

หรือคิดว่าคำประกาศเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องรักษา เพราะมันสำคัญกว่าปากท้อง อำนาจที่ต้องประคับประคอง

เอาเป็นว่าเลือกตั้งครั้งนี้คงไม่ใช่เลือกตั้งครั้งสุดท้าย และครั้งต่อไปคงเกิดขึ้นอีกไม่นาน

จะถึงวันลงโทษคนดูถูกประชาชน

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม โดย รุก กลางกระดาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน