ถึงเวลาเลิกตื๊อ ปชป.-ภูมิใจไทย

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

ถึงเวลาเลิกตื๊อ ปชป.-ภูมิใจไทย – การเมืองมีหลายปมให้จับตา

23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคำร้อง กกต.ที่ขอให้วินิจฉัยความเป็นส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีถือครองหุ้นสื่อว่าจะรับไว้พิจารณาชี้ขาด หรือไม่

ถ้าศาลรับก็ต้องลุ้นว่า จะมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีข้อวินิจฉัยออกมาหรือไม่

หากมีคำสั่งให้หยุด นายธนาธรก็จะไม่ได้เข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาวันที่ 24 พ.ค.

24 พ.ค. หลังเสร็จสิ้นรัฐพิธีช่วงบ่ายแล้ว ช่วงเย็นจะประชุมสมาชิกวุฒิสภา หรือส.ว.ลากตั้ง 250 คน นัดแรกต่อทันที เพื่อเลือกประธานและรองประธานส.ว.

จากนั้น 25 พ.ค. ประชุมสภาผู้แทนฯ นัดแรกเพื่อเลือกประธานและรองประธานสภา น่าติดตามไม่น้อย โดยเฉพาะในช่วงเวลาพรรคใหญ่ 2 ขั้วกำลังแย่งชิงกันตั้ง นายกฯ และรัฐบาล

ตำแหน่งประธานสภาจะเป็นตัวชี้วัดได้ว่า ใครจะได้เป็นนายกฯ ขั้วไหนจะได้ตั้งรัฐบาล

พูดถึงเรื่องตั้งรัฐบาล ที่สองขั้วกำลังงัดข้อกันอยู่ โดยมีประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยเป็นตัวแปรสำคัญ

เวลาล่วงเลยมา 2 เดือน หลายคนเริ่มรู้สึกรำคาญสองพรรคตัวแปร ที่เอาแต่ ยึกยักไม่ยอมตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไปรวมกับขั้วไหน

การเมืองเลยอึมครึม ประเทศชาติก็เดินหน้าต่อไม่ได้

ล่าสุดเริ่มมีการตั้งคำถามกับขั้วประชาธิปไตยบ้างแล้วว่า

ถึงเวลาหรือยังที่จะเลิกงอนง้อประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทย

แกนนำภูมิใจไทยเคยพูดไว้อย่างไรก่อนเลือกตั้ง ตอนนี้ทำมาเป็นพูดว่าถูกกดดันให้ต้องเลือกข้าง

ส่วนประชาธิปัตย์ถามว่า จากเหตุการณ์ต่างๆ ทางการเมืองในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ตั้งแต่รัฐประหารปี 2549 มีครั้งไหนหรือไม่ที่ประชาธิปัตย์แสดงจุดยืน เลือกข้างฝ่ายประชาธิปไตย

ถ้าคำตอบคือ ไม่เคย ก็ควรเลิกตื๊อได้แล้ว

ปล่อยไปตามยถากรรม รอให้ประชาชนลงโทษจะดีกว่า

มันฯ มือเสือ