ประชาธิปัตย์ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ประชาธิปัตย์ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง – หลังพลังประชารัฐเทเสียงโหวตให้ นายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร
ก็เหมือนสัญญาณชัดว่าประชาธิปัตย์ตกลงปลงใจไปร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯ
แน่นอนแล้ว 99 เปอร์เซ็นต์
ที่ยังทำลีลากระบิดกระบวนวันที่นายอุตตม สาวนายน ยกขันหมากไปสู่ขอ
ก็แค่เป็นส่วนที่เหลือ 1 เปอร์เซ็นต์ ต้องตกลงกันให้สะเด็ดน้ำเกี่ยวกับโควตาตำแหน่งในรัฐบาล
ภูมิใจไทยนั้นไม่มีปัญหา ได้โควตาเก้าอี้สมประโยชน์ตามต้องการ หลักๆ คือว่าการคมนาคม ว่าการสาธารณสุข กับว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา
ก็ถือว่าพลังประชารัฐทุ่มให้เต็มที่
แต่กับประชาธิปัตย์ ตอนแรกคิดว่าง่าย แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่ง่ายอย่างคิด
ประชาธิปัตย์ต้องการเก้าอี้ว่าการเกษตรฯ เพื่อใช้เป็นกลไกแก้ปัญหาพืชผล ราคายางและปาล์มภาคใต้
ขณะที่กลุ่มสามมิตรของ “สมศักดิ์-สุริยะ” ในพลังประชารัฐ ก็ต้องการได้ไว้ครอบครอง จองไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียง
ปัญหาภายในประชาธิปัตย์ยังสลับซับซ้อนกว่าภูมิใจไทย ความเป็นประชาธิปไตยในพรรคก็มีมากกว่า
จึงไม่แปลกที่เห็นสมาชิกคนรุ่นใหม่อย่างไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ์ หรืออดีตรองโฆษกพรรค เชาว์ มีขวด ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยหากพรรคจะเข้าร่วมกับพลังประชารัฐ เพื่อสืบทอดอำนาจให้ คสช.
เพราะไม่เพียงขัดอุดมการณ์พรรค
ยังขัดกับสิ่งที่อดีตหัวหน้าพรรคเคยพูดไว้ก่อนเลือกตั้ง ย้อนแย้งสิ่งที่หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันปราศรัยไว้ถึง “ประชาธิปไตยสุจริต”
แต่ก็อย่างว่าคนคัดค้านไม่ได้เป็นส.ส. ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค จึงไม่มีส่วนร่วมตัดสินใจ
อาจโดนต่อว่า “หมูจะหาม เอาคานเข้ามาสอด”
ประชาธิปัตย์ก็คือประชาธิปัตย์วันยังค่ำ
ประชาชนผู้เลือกตั้ง ต้องศึกษาเรียนรู้กันไว้
โดย…มันฯ มือเสือ