ดารากับความเห็นทางการเมือง
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
รุก กลางกระดาน
ดารากับความเห็นทางการเมือง – นับเป็นประเด็นที่สะท้อนความเห็นของสังคมได้อย่างน่าสนใจ
สำหรับการแสดงความเห็นทางการเมืองของดารานักร้องหนุ่ม ปั้นจั่น–ปรมะ อิ่มอโนทัย ที่โพสต์เฟซบุ๊ก ปกป้องคสช. ที่ถูกกล่าวหาว่าสืบทอดอำนาจ
แถมยังระบุถึงคนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า “อย่าบ่นมาก ทำมาหากินไป ไม่ใช่ดื่มเหล้าปาร์ตี้มันทุกคืน”
พลันที่ความเห็นดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป เสียงสะท้อนมุมกลับก็กระหึ่มตามมาทันที
แม้‘ปั้นจั่น’จะลบโพสต์ไปในระยะเวลาไม่นาน แถมยังมีนักการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ มาช่วยโพสต์สนับสนุน ติดแฮชแท็ก #savepunjan
แต่ก็ไม่สามารถระงับยับยั้งความเสียหายได้
แถมยังลามไปถึงภาพยนตร์ที่ตัวเองเป็นผู้แสดงนำ ที่กำลังจะเข้าฉาย ถูกสังคมกลุ่มหนึ่งประกาศแบน
โดยให้เหตุผลว่า ‘ไม่ว่าง ต้องไปทำมาหากิน’
ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นประเด็นคำถามว่า อะไรทำให้ปฏิกิริยาของสังคมพุ่งไปในทิศทางที่รุนแรงเช่นนี้ เพราะก่อนหน้านี้ ‘ปั้นจั่น’ ก็ถือว่าเป็นดาราแถวหน้าที่ได้รับความนิยมสูงพอสมควร
ก็พอจะสรุปได้ว่า การที่ปั้นจั่น โจมตีคนอื่นให้หยุดบ่นกับการสืบทอดอำนาจของคสช. คือเป็นการไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง
เพราะหากความจำไม่เสื่อม ก็ต้องรู้ว่าผลการเลือกตั้งนั้น พรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับ 1 เมื่อรวมกับขั้วประชาธิปไตย ถ้าไม่เจอสูตรพิสดารของกกต. ยังไงก็เกินกึ่งหนึ่งแน่นอน
ซ้ำยังบอกให้ไปทำมาหากิน ไม่ใช่ดื่มเหล้าปาร์ตี้กันทุกคืน ก็เท่ากับการแสดงจุดยืนว่า ที่คนมีฐานะยากจนเป็นเพราะความขี้เกียจ
ทั้งที่จริงๆ แล้ว มีปัจจัยที่เกี่ยวพันกับเรื่องเศรษฐกิจเยอะแยะ และการมีรัฐบาลห่วยแตกก็เป็นส่วนหนึ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้
สุดท้าย แม้ ‘ปั้นจั่น’ จะออกมาขอโทษ ก็ขอโทษเฉพาะนายทุน ดารา ที่เกี่ยวโยงกับภาพยนตร์เรื่องที่เสียประโยชน์ เพราะการกระทำของ ‘ปั้นจั่น’ เองเท่านั้น
ไม่มีคำไหน ที่จะขอโทษประชาชนที่ถูกดูถูกเลยสักคำเดียว
จึงไม่แปลกใจที่จะถูกตอกกลับด้วยมาตรการทางสังคมเช่นนี้
ส่วนใครที่จะสนับสนุนก็ถือเป็นสิทธิที่ทำได้เช่นกัน จะช่วยกันดูคนละ 100-200 รอบ
ก็อาจจะช่วยกอบกู้ผลเสียที่เกิดขึ้นได้