คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

รุก กลางกระดาน

ไม่จบลงง่ายๆ อย่างแน่นอน สำหรับกรณีเจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญนายชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนนักกิจกรรมชาวลาหู่

ซึ่งฝ่ายเจ้าหน้าที่อ้างว่าเกิดขึ้นจากการตั้งด่านสกัดยาเสพติดที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และค้นยาบ้า 2.8 พันเม็ดเจอในรถคันที่นายชัยภูมินั่งมา

เมื่อแสดงตัวจับกุม นายชัยภูมิกลับขัดขืนวิ่งหนี และจะขว้างระเบิดที่พกมาใส่เจ้าหน้าที่

จึงจำเป็นต้องยิงปืนกลเอ็ม 16 สวนเข้าไป 1 นัด จนถึงแก่ความตาย

กลายเป็นเหตุค้างคาใจประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากนายชัยภูมิเองเป็น นักกิจกรรม แต่งเพลง ทำหนังสั้น รณรงค์เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของชาวลาหู่

พฤติกรรมในชีวิตประจำวันเป็นศิลปิน ไม่มีอะไรส่อว่าเป็นพ่อค้ายา!??

ทำให้องค์กรระดับโลกต้องแสดงความเป็นห่วง และขอให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงให้ชัดเจน

แต่ยังไม่มีอะไรขยับ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกลับประสานเสียงพ้องต้องกันว่า นายชัยภูมิ มีประวัติค้ายาเสพติด

เป็นคนหนุ่มที่ไม่มีการงานเป็นหลักแหล่ง แถมเคยถูกล่อซื้อยาบ้า แต่หลบหนีได้

แถมยังมาข่มขู่พยานที่ให้ข้อมูลอีก

แน่นอนว่าการเป็นนักกิจกรรมไม่ได้ รับประกันทั้งหมดว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

เพราะที่ผ่านมาคนในแวดวงข้าราชการ คนมีสี กลายเป็นมือปืนรับจ้าง ใช้รถหน่วยงานขนยาเสพติด โกงชาติโกงเมือง ก็เยอะแยะอักโข

แต่ทุกอย่างก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ไม่ใช่การกล่าวหา กล่าวอ้างลอยๆ

ยิ่งระดับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง พูดอะไรไม่ยั้งคิด ก็จะนำความเสื่อมมาสู่ตัวเอง

และยิ่งสร้างคำถามว่า หากนายชัยภูมิมีประวัติโชกโชนร้ายกาจขนาดนั้น ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่จับกุมดำเนินคดี

กลับปล่อยปละละเลยให้ค้ายาในพื้นที่ได้อย่างปกติสุข

ยิ่งไปกว่านั้นระเบิดที่อ้างเป็นของจีนแดง ทั้งที่ทหารตรึงกำลังชายแดนเต็มที่ ทำไมบกพร่องจนอาวุธสงครามเข้ามาอย่างง่ายดาย

หนำซ้ำก่อนหน้านี้ก็จับตายชาวเขา ที่อ้างว่าจะขว้างระเบิดใส่ทหาร

ลักษณะเดียวกัน ในพื้นที่เดียวกัน

มันไม่บังเอิญเกินไปหน่อยเหรอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน