ดับไฟใต้ให้ถูกทาง – เป็นเหตุการณ์รุนแรงครั้งใหญ่ ที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงของประเทศ

สำหรับการลอบวางระเบิดป่วนเมืองนับสิบจุด เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

ดีที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจยัง รวดเร็ว กล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยได้ ไม่เหมือนเหตุการณ์ที่ทำร้ายนักกิจกรรมทางการเมืองที่ผ่านมา

ทำให้การติดตามจับกุมคนร้ายมาได้เร็ว ไม่หลงทางเข้ารกเข้าพง เหมือนที่มีกลุ่มคนไม่หวังดีพยายามลากให้เป็นเรื่องการเมือง

สอบสวนจนเป็นที่ชัดเจนว่าเจตนาการลงมือ ครั้งนี้ก็คือการต้องการดิสเครดิตรัฐบาล และส่งเสียงตอบโต้นโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

หรือพูดง่ายๆ ก็คือไฟใต้ลามเข้าสู่กรุงแล้วนั่นเอง

แน่นอนว่าการจะออกมายอมรับของฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็ยังคงก้ำๆ กึ่งๆ

คือยอมรับว่าคนลงมือเป็นคนที่มาจากภาคใต้ แต่เจตนาจริงๆ ยังต้องสอบสวนทวนความ

ก็พอเข้าใจได้ เพราะเพิ่งมารับตำแหน่ง นายกฯ รอบ 2 ประกาศดูความมั่นคงด้วยตัวเอง ควบทั้งตำแหน่ง รมว.กลาโหม คุมตำรวจ ดีเอสไอ

แล้วมาถูกล้วงคองูเห่าเช่นนี้ จะให้ยอมรับหน้าชื่นตาบานก็คงจะกระไร

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้นำรัฐบาล ก็ต้องนำข้อมูลตรงนี้ไปพิจารณาทบทวน โดยเฉพาะแนวทางการแก้ไขปัญหาไฟใต้

พิจารณาให้ชัดเจนว่าทำไมยิ่งแก้ ยิ่งลุกลามบานปลาย

งบประมาณมหาศาลที่ทุ่มเทลงไป ถูกนำไปแก้ปัญหาอย่างถูกทางแล้วหรือไม่

รวมทั้งปัญหาความรุนแรง กรณีที่มีบุคคลถูกควบคุมไปยังศูนย์ซักถาม แล้วเกิดบาดเจ็บ บางคนเป็นอัมพาต บางคนถึงกับเสียชีวิต

ทั้งหมดนี้ได้สอบสวนทวนความ ทำความจริงให้ปรากฏแล้วหรือไม่ อย่างไร

เพราะต้องย้ำให้ชัดว่าเจ้าหน้าที่รัฐควรจะเป็นผู้แก้ปัญหา ไม่ทำตัวเป็นเงื่อนไข เสียเอง

ไม่เพียงแค่นั้น การเจรจาเพื่อสันติภาพ ที่เคยเดินหน้ามาด้วยดีก่อนปฏิวัติรัฐประหาร วันนี้ยืนอยู่ตรงจุดไหน

เดินหน้าหรือถอยหลังลง

ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่ควรทบทวน เพื่อแก้ปัญหาภาคใต้อย่างยั่งยืน

คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม โดย รุก กลางกระดาน